บริษัท ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายยานยนต์ใหม่ในสหรัฐร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนเม.ย. โดยยอดขายยานยนต์ใหม่ร่วงลง 6.9% จากระดับปีที่แล้ว สู่ระดับ 1,246,554 คัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดขายรวมของค่ายรถ 3 รายใหญ่ของสหรัฐ ได้แก่ เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป, ฟอร์ด มอเตอร์ และไครส์เลอร์ แอลแอลซี ร่วงลง 16.8% เหลือ 592,336 คัน โดยส่วนแบ่งตลาดของบริษัทรถยนต์ 3 รายใหญ่นี้ก็ร่วงลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์เช่นกันที่ 47.5%
ความต้องการรถยนต์ขนาดใหญ่และรถกระบะที่น้อยลง ตลอดจนการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่ลดลง และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบยอดขายและส่วนแบ่งตลาดของยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของสหรัฐ
ผู้นำในตลาดอย่างเจเนอรัล มอเตอร์ มียอดขายร่วงลง 16.1% แตะ 256,058 คัน และส่วนแบ่งการตลาดยืนอยู่ที่ 20.5% ขณะที่ฟอร์ดยอดขายตกลง 11.8% แตะ 188,527 คัน และไครส์เลอร์ ร่วงลง 23.5% เหลือ 147,751 คัน
แต่บริษัทรถญี่ปุ่นกลับทำตลาดได้ค่อนข้างดี เนื่องจากผู้บริโภคในสหรัฐต้องการใช้รถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและรถที่มีขนาดเล็ก โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งรั้งอันดับ 2 ในตลาดสหรัฐมีส่วนแบ่งการตลาด 17.5% เพิ่มขึ้น 3.4% แตะระดับสูงที่ 217,700 คันในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--