นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า นายเซี่ย ซง ฟาง (Mr. Xie Song Feng) ประธานบริษัท Gortune Investment จำกัด และคณะผู้บริหาร ซึ่งเป็นผู้ลงทุนด้านบริการทางการเงิน พลังงานทดแทน เกษตรอุตสาหกรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรม สัญชาติจีน ที่มีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 120,000 ล้านบาท ได้เข้าพบหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และตน เพื่อแสวงหาความร่วมมือการด้านลงทุนในประเทศไทย
โดยบริษัท Gortune แสดงความสนใจที่จะลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 2 ประเภทธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ New S-Curve ที่รัฐบาลสนับสนุน คือ 1.พลังงานสะอาด (Green power and materials) และ 2.การผลิตขั้วประจุลบของแบตเตอรี่
นางนลินี กล่าวว่า ขณะนี้ใน EEC มีผู้ลงทุนด้านการผลิตรถยนต์ EV ถึง 90% จึงเชิญชวนให้ Gortune เข้ามาลงทุนแบบครบวงจร ทั้งการผลิตรถยนต์ แบตเตอรี่ และสถานีชาร์จ รวมทั้งยังมีแผนที่จะส่งเสริมด้านการเงินสีเขียว (Green finance) อยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมมือกัน
ส่วนการผลิตขั้วประจุลบของแบตเตอรี่นั้น บริษัท Gortune ครองตลาดโลกคิดเป็น 32.6% มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Mercedes Benz, BMW, Panasonic และมีโรงงานผลิตอยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส โมร็อกโก จีน อินโดนีเซีย และกำลังสนใจจะลงทุนสร้างโรงงานในประเทศไทย โดยทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับ EEC เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า จีนเป็นชาติแรกที่เข้ามาลงทุนใน EEC เพราะเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของไทย และที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนจีนแล้ว ทำให้นักลงทุนชาวจีนเกิดความมั่นใจว่าไทยให้ความสำคัญกับจีน รวมทั้งยังชื่นชมนโยบาย Visa on arrival ของรัฐบาลที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร Gortune ยังได้เสนอแนะแก่รัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ เช่น ต้องการให้แยกการตรวจลงตราของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเพื่อความสะดวกรวดเร็วขึ้น และอนุญาตให้นักธุรกิจอยู่ในประเทศไทยได้นานกว่า 30 วัน เช่นเดียวประเทศอินเดีย ตลอดจนประกาศให้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนมีความมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลจะนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป