กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามรายงานว่า การผลิตข้าวของเวียดนามยังอยู่ในสภาพที่สอดคล้องและยังเป็นไปตามเป้าหมายการผลิตที่ 36.55 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการสร้างความมั่นใจถึงความมั่นคงของอุปทานข้าวภายในประเทศและการส่งออกข้าว
ก่อนหน้านี้ เกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศเวียดนาม เพราะประชาชนแห่กันไปซื้อและกักตุนข้าว ส่งผลให้บริษัทที่ทำธุรกิจอาหารและหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของเวียดนามต้องเข้ามาดำเนินการเพื่อคลี่คลายเหตุการณ์ จนทำให้ราคาข้าวเริ่มปรับตัวลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบัน เวียดนามมีข้าวในสต็อคอยู่ 1.23 ล้านตัน โดยทางการเวียดนามกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นและเกิดกระแสแห่ซื้อและกักตุนข้าวว่ามาจากข่าวลือต่างๆนานา การเก็งกำไร และปัญหาในการจำหน่ายข้าวมากกว่าปัญหาการขาดแคลนข้าว
ราคาข้าวในตลาดภายในประเทศเวียดนามร่วงลงเหลือ 16,000-17,000 ดอง หรือ 1-1.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัมสำหรับข้าวคุณภาพดีเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยราคาข้าวเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 11,000-13,000 ดอง หรือเกือบ 0.7-0.8 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 20,000-22,000 ดอง หรือเกือบ 1.3-1.4 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีเหงียน ตัน ดุง ของเวียดนามได้ออกประกาศฉุกเฉินเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อยืนยันว่าเวียดนามสามารถผลิตอาหารได้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ รวมทั้งสามารถส่งออกข้าวได้เป็นบางส่วน
เวียดนามคาดว่า จะมีผลผลข้าว 36.55 ล้านตันในปีนี้ ส่วนการบริโภคข้าวภายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 27.8 ล้านตัน ซึ่งนับรวมถึงข้าวจำนวน 1 ล้านตันที่สำรองไว้ใช้สำหรับการเพาะพันธุ์ และ 5.8 ล้านตันที่ใช้สำหรับเป็นอาหารสัตว์ ตลอดจนข้าวที่เสียหายภายหลังการเก็บเกี่ยวในรอบปี
สำนักงานศุลกากรเวียดนามรายงานว่า เวียดนามได้ส่งออกข้าว 1.6 ล้านตัน มูลค่า 775 ล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--