ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) กล่าวว่า การประชุมของคณะอนุกรรมการฯ จะเป็นการขออนุมัติเงินชดเชยในการพัฒนาและบริหารคุณภาพข้าวให้กับชาวนาจำนวน 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่เกิน 20 ไร่จำนวน 20,000 บาท โดยแนวทางดังกล่าวจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งกระทรวงการคลัง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เตรียมงบประมาณวงเงินดังกล่าวไว้ให้แล้ว
ส่วนกรณีการซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิความชื้นไม่เกิน 25% วงเงิน 12,000 บาทต่อตัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ระบุว่า สามารถดำเนินการได้เลย
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงสถาบันทางการเกษตรกรในพื้นที่ ในการรับซื้อข้าวต้องให้เป็นไปตามมติประชุมครม. ให้รับซื้อในราคา 12,000 บาทต่อตัน ซึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการวันนี้ได้กำชับปลัดกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งอธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์ว่า ต้องปฏิบัติตามมติครม. แต่หากสถาบันเกษตรกรใด ซื้อข้าวเปลือกในราคาที่ต่ำกว่านี้ ธ.ก.ส. จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดดังนั้น อย่าซื้อราคาต่ำกว่านี้เป็นการเอาเปรียบชาวนา
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งกระทรวงการคลัง จะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยตนมีการเล็งตลาดขายข้าวอื่นๆ ไว้แล้ว โดยในวันที่ 22 พ.ย. นี้ ตนจะเดินทางไปยังประเทศจีน ในการเจรจาเพื่อส่งสินค้าทางด้านการเกษตรหลายๆ อย่าง นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรและการระบายสินค้า ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนจะเริ่มทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ในการระบายสินค้า
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 15 ม.ค. 67 จะเดินหน้าแจกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อการเกษตร
"มาตรการหลายๆ อย่าง จะดูในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำจะเห็นเป็นรูปธรรมหลัง 15 ธ.ค. นี้" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
พร้อมยืนยันว่า การทำงานร่วมกันของรัฐมนตรีในกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีปัญหา ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการได้เชิญรัฐมนตรีช่วยทั้งสองคนมาพูดคุย กรอบการทำงาน ซึ่งตนได้มอบงานให้แต่ละคนไปทำ และทำงานให้เต็มที่ ซึ่งจะมีการประเมินการทำงานหรือ KPI เป็นไตรมาส ที่จะดูจากผลงาน