นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดน่าน ขณะนี้ผลผลิตในพื้นที่ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 50% และจะออกกระจุกตัวมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ อาจทำให้ผู้รับซื้อในพื้นที่ไม่เพียงพอรองรับผลผลิตพร้อมกัน ส่งผลต่อราคาที่เกษตรกรขายได้
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาจะมีแนวโน้มลดลงจากช่วงก่อนหน้า ตามคุณภาพผลผลิตที่เกษตรกรเก็บเกี่ยว แต่ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ยังได้ชี้แจงมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ร่วมเป็นประธานด้วย โดยในปีการผลิต 2566/67 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการไว้ 2 โครงการฯ คือ โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ผู้รวบรวม และสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยสถาบันเกษตรกร ซึ่งทั้ง 2 โครงการ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ดึงผลผลิตออกจากตลาดในช่วงที่ออกมาก เพื่อรักษาระดับราคาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดให้มีการเปิดจุดรับซื้อ โดยประสานผู้รับซื้อต่างพื้นที่เข้ามารับผลผลิตที่กำลังจะออกมาก เป้าหมาย 30,000 ตัน ซึ่งดำเนินการใน อ.เวียงสา จ.น่าน ก่อนเป็นที่แรกในวันนี้ พร้อมจัดทำ MOU เชื่อมโยงผลผลิตระหว่างสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กับสมาคมการค้าพืชไร่ และจะมีการเปิดจุดเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคาไม่ให้ลดต่ำลงได้
นายอุดม กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการในสินค้าทดแทน ก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง โดยยังคงมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีที่ 1: 3 และกรมฯ ได้สั่งการไปยังคณะทำงานตรวจสอบปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ข้าวสาลีที่นำเข้ามากดดันราคาข้าวโพดฯ ของเกษตรกร และขอให้เกษตรกรไม่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวโพดฯ ก่อนเวลา เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดี
รวมทั้งกรมฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้น ให้มีความเที่ยงตรง เพื่อดูแลความเป็นธรรมให้เกษตรกร หากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขาย สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569