นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทางว่า ในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,413 ล้านบาท ขณะนี้ยังเหลืองานโยธาอีก 2 สัญญาที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง ซึ่งต้องเร่งแก้ไขให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ เพื่อให้สามารถเดินหน้าก่อสร้างได้เร็วที่สุด
โดยประเด็นโครงสร้างร่วม สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. เป็นช่วงที่เส้นทางทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ขณะนี้ยังเจรจากับ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (ซี.พี.) เอกชนคู่สัญญาอยู่ ซึ่งแนวทางล่าสุด ทางเอกชนส่งสัญญาณว่าอาจต้องให้รฟท.เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างส่วนโครงสร้างร่วมทั้งหมด
หากรฟท.รับก่อสร้างโครงสร้างร่วมทั้งรถไฟไทย- จีน และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเอง จะมีการเจรจาปรับลดค่าก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในเนื้องานที่รฟท.จะเป็นผู้ก่อสร้างให้ ขณะเดียวกัน ในส่วนของรถไฟไทย-จีน สัญญา 4-1 จะมีค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น (เดิมมีแนวคิดให้ซี.พี.ก่อสร้างโครงสร้างร่วมโดยคำนวนค่าใช้จ่ายรถไฟไทย-จีน สัญญา 4-1 ที่เพิ่ม ไปปรับเงื่อนไขทางการเงินของสัญญาสัมปทาน 3 สนามบินแทน )
นายนิรุฒ กล่าวว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมารฟท.ได้หารือนอกรอบกับทางซี.พี.ในประเด็นโครงสร้างร่วม เพื่อพยายามเร่งหาข้อยุติร่วมกัน จากนั้นจะได้นำเข้าหารือในคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ รฟท. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัท เอเชีย เอรา วัน และเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติ ในการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ กับทางซี.พี.และเพิ่มกรอบค่าก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สัญญา 4-1
"เบื้องต้นได้รายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหา ต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม รับทราบแล้ว โดยรฟท.ขีดเส้นในปีนี้ต้องจบ ที่ผ่านมาหารือกันมาหลายรอบ และใช้เวลากันมานานแล้ว ซึ่งเอกชนได้ให้ความร่วมมือในการพิจารณาแนวทางต่างๆ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เดิมทางเอกชนได้คำนวนตัวเลขกรณีที่ต้องเป็นผู้ก่อสร้างโครงสร้างร่วม และเอกชนส่งสัญญาณว่าอาจจะทำไม่ไหว รฟท.ก็ต้องหารือกันให้ตกผลึก เพราะพื้นที่ ช่วงโครงสร้างร่วม 2 โครงการมีจำกัด ทำให้ต่างคนต่างทำไม่ได้ ต้องให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับทำ "ผู้ว่าฯรฟท.กล่าว
สำหรับรถไฟไทย- จีน สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม.ที่มีกรณีผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก บริเวณสถานีอยุธยา นายนิรุฒกล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจร่างสัญญาส่งกลับมาแล้วขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ของตรวจทานด้านเอกสาร เพื่อความเรียบร้อยครบถ้วน คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างกับ บริษัท บุญชัยพาณิชย์(1979) จำกัด ผู้รับจ้าง วงเงิน 10,325 ล้านบาท ได้ในเดือนพ.ย.2566
โดยช่วงผ่านจังหวัดอยุธยา รฟท.ยังคงใช้แนวเส้นทางเดิม ไม่มีการปรับย้ายแนวแต่อย่างใด โดยหลังลงนามสัญญา 4-5 จะก่อสร้างในส่วนของทางวิ่งไปก่อนและหากได้ข้อยุติเรื่องสถานีอยุธยาค่อยมาดำเนินการก่อสร้างในภายหลังต่อไป ซึ่งการก่อสร้างทางวิ่งก่อนได้ระบุไว้ในสัญญาที่จะเซ็นกับผู้รับเหมาไวัแล้ว
ส่วนกรณีมรดกโลก สถานีอยุธยา นั้น รายงานศึกษารายงาน HIA อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ขณะเดียวกันได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตัวสถานียังสามารถหารือปรับแบบให้เล็กลงหรือให้สอดคล้องกับพื้นที่โดยรอบได้