นางนฤมล ภิณโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย กล่าวภายหลังหารือกับนายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยว่า ทูตญี่ปุ่นยืนยันว่าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของญี่ปุ่น พร้อมจะทำงานร่วมมือกับรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์เป็นมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน
โดยทูตญี่ปุ่น เสนอให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่หลากหลาย ในช่วงการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่การเป็นประเทศศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และสินค้าที่เชื่อมโยงเพื่อส่งไปยังประเทศอาเซียน อีกทั้งภายใต้นโยบาย Green Growth ของประเทศญี่ปุ่น ภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่น มีความสนใจร่วมลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกลุ่มใหม่ เช่น AI, Bio Technology, Modern Agriculture และ Clean Energy ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการส่งเสริม Green Economy & Clean Energy เช่นกัน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด จากแสงแดด ลม น้ำ และขยะ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตอาจมีการนำพลังงานสะอาดเหล่านี้มาใช้ในภาคการผลิตมากขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) ยังมองว่าการเปลี่ยนผ่านนโยบายด้านพลังงานของไทยมีความเป็นรูปธรรมชัดเจน จึงพร้อมสนับสนุนนโยบายพลังงานสะอาดร่วมกับไทย และ METI จะเสนอกรอบความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยกับญี่ปุ่น โดยจะเน้นย้ำประเด็น Green Transition
ส่วนเรื่องการพัฒนาทุนมนุษย์ของไทยนั้น รัฐบาลญี่ปุ่น มีความตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลขั้นสูงต่อไป โดยหวังอย่างยิ่งว่านักธุรกิจรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นและไทย จะได้มีการติดต่อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น ในลักษณะ Business Matching
"เดือนธันวาคม นายกฯ และคณะผู้บริหารรัฐบาล มีกำหนดการไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือและขยายกรอบการลงทุนร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น ในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-ไทย ในหลายด้านให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นไปอีก" นางนฤมล กล่าว