นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ทูตพาณิชย์ และภาคเอกชน เพื่อหารือแผนเร่งรัดการส่งออกและการค้าชายแดน Quick Win 100 วัน และ 1 ปี ทูตพาณิชย์ของไทยใน 58 แห่งทั่วโลก ได้ประเมินเป้าหมายการส่งออกของไทยปี 67 ในเบื้องต้นไว้ที่ 1.99% ที่มูลค่าการส่งออกราว 2.87 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาคเอกชน ประเมินว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 1-2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกัน
อย่างไรก็ดี สำหรับตัวเลขเป้าหมายการส่งออกปี 67 ที่ชัดเจนนั้น คงต้องรอสรุปตัวเลขการส่งออกของปี 66 นี้ก่อน จึงจะสามารถประกาศเป้าหมายส่งออกในปีหน้าอย่างเป็นทางการได้
"การประเมินจากทูตพาณิชย์ คาดมูลค่าจะขยายตัวที่ 1.99% จากปี 66 คิดเป็นมูลค่า 287,754 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 10 ล้านล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชน ประเมินในฝั่งการผลิต คาดจะขยายตัว 1-2% ซึ่งสอดคล้องกัน แต่ตัวเลขที่ชัดเจน จะต้องรอผลการส่งออกปี 66 ก่อน ถึงจะประกาศเป้าหมายการส่งออกของปี 67 อย่างเป็นทางการได้" นายภูมิธรรม ระบุ
ส่วนการส่งออกไทยในปี 66 ประเมินว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังขยายตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่การส่งออกในช่วง 2 เดือนล่าสุด คือ เดือนส.ค. เพิ่ม 2.6% เดือนก.ย. เพิ่ม 2.1% ทำให้การส่งออกทั้งปี 66 คาดว่าจะติดลบน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยเชื่อว่าจะติดลบไม่เกิน 1%
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการผลักดันการส่งออก ที่ได้ดำเนินการภายใต้นโยบายปรับส่งออกจากลบเป็นบวก ในช่วง 100 วัน ได้ดำเนินการรวม 73 กิจกรรม คาดว่าสามารถสร้างมูลค่าการส่งออก 12,400 ล้านบาท แต่เกิดผลจริง 25,424.75 ล้านบาท และยังได้ทำแผนล่วงหน้าสำหรับระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า เพื่อผลักดันการส่งออกในปี 67 โดยกำหนดไว้ทั้งสิ้น 380 กิจกรรม ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการส่งออก 65,701 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดกลยุทธ์การผลักดันการส่งออก 5 ด้าน ได้แก่ 1.จะเปิดประตูโอกาสทางการค้าเชิงรุกสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น สหรัฐฯ จีน ตะวันออกกลาง ฯลฯ ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิม 2.กำหนดให้ทูตพาณิชย์ทำงานเชิงรุก และบูรณาการทำงานกับพาณิชย์จังหวัดให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อเชื่อมโยงสินค้าจากท้องถิ่นสู่ตลาดโลก 3.การส่งเสริมการส่งออกซอต์พาวเวอร์ 4.การปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล 5.การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการส่งเสริมการค้าออนไลน์
ขณะที่การค้าชายแดน มีแผนที่จะยกระดับด่าน เปิดจุดผ่านแดนที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น การจัดตั้งศูนย์บริการการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (OSS) เพิ่มเติม เช่น สระแก้ว จันทบุรี หลังจากที่ได้นำร่องเปิดไปแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ส่งออก
พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมกับ บมจ.การบินไทย (THAI) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริมการตลาดสินค้า บริการ และซอฟต์พาวเวอร์ โดยการบินไทย จะเป็นโชว์รูมสินค้าไทยบนเครื่องบิน เพราะจะนำสินค้าไทยไปให้บริการบนเครื่องบิน
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และจากนี้ จะไม่เห็นตัวเลขติดลบอีก หากไม่มีสถานการณ์อะไรที่รุนแรงมากกว่าในปัจจุบัน เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลดีต่อการส่งออกไทยมาก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
พร้อมคาดว่า การขยายตัวของส่งออกไทย นับจากเดือนต.ค.-ธ.ค.66 จะเติบโตไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปี 65 ส่วนปี 67 ภาคเอกชนคาดจะขยายตัวเป็นบวกได้ไม่ต่ำกว่า 1-2% โดยสินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น ผลไม้ ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ