นางสาวธันย์สิตา อัครฤทธิภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ไตรมาสที่ 4 ถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งคนไทยที่นิยมท่องเที่ยวภายในประเทศ และการที่ภาครัฐมีโครงการฟรีวีซ่าให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีน อินเดีย และไต้หวัน ที่แอร์เอเชียมีเส้นทางบินให้บริการจำนวนมาก ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยได้อย่างดี
"ปลายปี เราได้เพิ่มปริมาณที่นั่งเส้นทางภายในประเทศมากขึ้น เพื่อเพียงพอกับความต้องการ และทันกระแสการท่องเที่ยว โดยภายในปีนี้ ไทยแอร์เอเชียจะมีปริมาณที่นั่งใกล้เคียงกับก่อนโควิด ยิ่งการที่เราบินจากกรุงเทพ 2 สนามบิน ทั้งดอนเมือง และสุวรรณภูมิ สู่ปลายทางยอดนิยม อย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ยิ่งสร้างทางเลือกการเดินทางที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ" นางสาวธันย์สิตากล่าว
ปัจจุบัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย ให้บริการเส้นทางภายในประเทศภายในปีนี้ รวม 32 เส้นทาง (เส้นทางบินจากกรุงเทพ 24 เส้นทาง และ 8 เส้นทางข้ามภาค) โดยเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ มีความถี่บินสูงสุดรวม 18 เที่ยวบินต่อวัน (13 เที่ยวบินจากดอนเมือง และ 5 เที่ยวบินจากสุวรรณภูมิ) กรุงเทพ-ภูเก็ต มีความถี่บินสูงสุดรวม 17 เที่ยวบินต่อวัน (13 เที่ยวบินจากดอนเมือง และ 4 เที่ยวบินจากสุวรรณภูมิ) และ กรุงเทพ-กระบี่ มีความถี่บินสูงสุดรวม 8 เที่ยวบินต่อวัน (6 เที่ยวบินจากดอนเมือง และ 2 เที่ยวบินจากสุวรรณภูมิ)
สำหรับในไตรมาส 4/66 ไทยแอร์เอเชีย เพิ่มความถี่บินใน 14 เส้นทาง (เทียบกับไตรมาสที่ 3) กล่าวคือ
เส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่
เชียงใหม่ เพิ่มจาก 11 เป็น 13 เที่ยวบินต่อวัน
ภูเก็ต เพิ่มจาก 11 เป็น 13 เที่ยวบินต่อวัน
เชียงราย เพิ่มจาก 4 เป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน
กระบี่ เพิ่มจาก 5 เป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน
สุราษฎร์ธานี เพิ่มจาก 3 เป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน
อุดรธานี เพิ่มจาก 3 เป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน
ระนอง เพิ่มจาก 1 เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน
เส้นทางกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่
เชียงใหม่ เพิ่มจาก 3 เป็น 5 เที่ยวบินต่อวัน
ภูเก็ต เพิ่มจาก 3 เป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน
กระบี่ เพิ่มจาก 1 เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน
เส้นทางเชียงใหม่ สู่
กระบี่ เพิ่มจาก 1 เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน
ภูเก็ต เพิ่มจาก 2 เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน
หาดใหญ่ เพิ่มจาก 1 เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน
ขอนแก่น เพิ่มจาก 1 เป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน