นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.12 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.23 บาท/ดอลลาร์
เย็นนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.10 - 35.27 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทปรับตัวแข็งค่าสอดคล้องสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เนื่องจากตลาดย่อยข่าวตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาไม่ค่อยดี ส่งผลให้ ดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า ติดตามสภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3/66 พร้อมประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 66 และ 67 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ติดตามการเปิดเผยรายงานประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เมื่อวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.66
"วันจันทร์หน้า รอดูสภาพัฒน์รายงาน GDP ไตรมาส 3 และคาดการณ์ GDP ปี 66 ถ้าปรับลดลงจากรอบก่อน ก็อาจจะมีผลให้ เงินบาทอ่อนค่าได้" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่าต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00 - 35.25 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 149.57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0849 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,415.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.44 จุด (+0.03%) มูลค่าซื้อขาย 45,607.55 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 132.99 ลบ.
- รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า คณะกรรมการดิจิทัลวอ
- วันจันทร์หน้า (20 พ.ย.) สภาพัฒน์ จะรายงานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3/2566
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ
- ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ระบุว่า สิงคโปร์จะนำร่องในการออก และใช้สกุลเงินดิจิทัล สำหรับใช้โอนเงินระหว่าง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ปรับตัวลดลง 0.3% สวนทางกับที่ตลาดคาด
- นายคิม โซ-ยัง รองประธานคณะกรรมการด้านบริการการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ อาจจะขยาย
- สัปดาห์หน้า สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค. จาก Conference
Board, ยอดขายบ้านมือสอง เดือนต.ค., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการ
ประชุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนพ.ย.