บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (20-24 พ.ย.) มีแนวรับอยู่ที่ 1,405 และ 1,390 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,430 และ 1,455 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) รวมถึงความกังวลของนักลงทุนรายย่อยเกี่ยวกับ Naked Short Selling ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค., ดัชนี PMI เดือน พ.ย. (เบื้องต้น) , บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือน พ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนการกำหนดอัตรดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือน พ.ย.ของจีน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยกลับมายืนเหนือ 1,400 จุด หลังนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทั้งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงแรก ก่อนจะดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ต.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดประเมินว่าโอกาสที่จะเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดน้อยลง อย่างไรก็ดี หุ้นไทยกลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยจุดสนใจของตลาดอยู่ที่ประเด็นการขายชอร์ตที่ไม่มีการยืมหลักทรัพย์ (Naked Short Selling) ซึ่งกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย อนึ่ง สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงสวนทางภาพรวมจากแรงขายหุ้นธนาคารรายใหญ่แห่งหนึ่ง
ในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,415.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.89% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,231.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.28% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.20% มาปิดที่ระดับ 402.44 จุด