กลุ่มบริษัทการเงินขนาดใหญ่ 6 แห่งของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลกำไรสุทธิรวมของกลุ่มบริษัททั้ง 6 แห่ง น่าจะอยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2550 หรือร่วงลงกว่า 40% จากปีก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากวิกฤตซับไพร์ม
โดยความสูญเสียจากวิกฤตซับไพร์มและความผันผวนในตลาดการเงินคาดว่าจะมีมากกว่า 8 แสนล้านเยนในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วถึง 3 เท่า
กลุ่มบริษัทการเงินทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย สุมิโตโมะ มิตซูอิ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, มิซูโฮะ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์, สุมิโตโมะ ทรัสท์ แอนด์ แบงค์กิง โค, เรโซน่า โฮลดิงส์ อิงค์ และ ชูโอ มิตซูอิ ทรัสท์ โฮลดิงส์ อิงค์
มิซูโฮะ ไฟแนนเชียล ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตซับไพร์มมากที่สุด คาดว่าจะได้รับความสูญเสียกว่า 5.31 แสนล้านเยนหรืออาจลุกลามมากถึง 6 แสนล้านเยน นอกจากนั้นยังปรับลดคาดการณ์ผลกำไรสุทธิของกลุ่มลงเหลือ 3.10 แสนล้านเยน จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้วว่าจะมีกำไรสุทธิกว่า 7.50 แสนล้านเยน
ด้าน มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ คาดว่าผลกำไรสุทธิของกลุ่มจะร่วงลงกว่า 40% เหลือ 5 แสนล้านเยน อันเป็นผลมาจากความสูญเสียจากวิกฤตซับไพร์มกว่า 9.5 หมื่นล้านเยน
ในขณะเดียวกัน สุมิโตโมะ มิตซูอิ คาดการณ์ว่าทางบริษัทจะได้รับความสูญเสียจากวิกฤตซับไพร์มราว 9.3 หมื่นล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.0-2253-5050 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--