นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย ซึ่งมีทั้งหมด 5 มาตรการ ประกอบด้วย
1. มาตรการด้านภาษีและการเงินเพื่อสนับสนุนสินค้าไทยให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว
2. มาตรการปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิต และภาษีอื่นๆ รวมทั้งปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ให้สินค้าและบริการบางประเภทมีราคาจูงใจ เช่น การลดภาษีสินค้าแบรนด์เนม
3. พิจารณาความเหมาะสมในการยกเลิกการอนุญาตจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี (Duty free) ขาเข้า เพื่อส่งเสริมการใช้สินค้าภายในประเทศ
โดยมาตรการที่เกี่ยวกับด้านภาษีในข้อ 1-3 นี้ กระทรวงการคลังจะไปพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม
4. การผ่อนปรนเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายต่อวันของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้น โดยให้กระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการศึกษา
5. การยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว (Visa Free) ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการเดินทางเข้าในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้กระทรวงการต่างประเทศ ไปดำเนินการศึกษา
"ครม.เห็นชอบในหลักการ ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ไปพิจารณาในรายละเอียดโดยเร็ว ว่าในแต่ละมาตรการจะต้องทำอะไรบ้าง และนำเสนอรายละเอียดของมาตรการ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมมาตรการอื่นๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม มาเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางในด้านการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการข้างต้น จะก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ภาษี ซึ่งจะต้องมีการจัดทำประมาณการสูญเสียรายได้ที่ชัดเจนต่อไป แต่จะสามารถเพิ่มรายได้จากการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศ ทั้งทางตรง และทางอ้อม รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าในต่างประเทศของคนไทย