นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง กล่าวถึงการดำเนินการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ในส่วนของกระทรวงการคลังว่า ปัจจุบัน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดให้มีแหล่งเงินทุนในระบบ ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
- โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชนเพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ โดยธนาคารออมสิน วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) 1% ต่อเดือน ระยะเวลากู้ไม่เกิน 5 ปี
- สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยเพื่อเป็นเงินทุนหรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ โดยธนาคารออมสิน วงเงินสินเชื่อไม่เกินรายละ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) 1% ต่อเดือน ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 8 ปี หรือ 96 งวด
- สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน โดย ธ.ก.ส. เพื่อสงวนรักษาที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก หรือใช้ที่ดินเป็นประกัน วงเงินสูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 20 ปี
รมช.คลัง กล่าวว่า สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบ หากต้องการจะประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถยื่นขออนุญาตจากกระทรวงการคลัง เพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ได้ โดยใบอนุญาตประเภทพิโกไฟแนนซ์ มีเงื่อนไขสำคัญเบื้องต้น คือ ต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท สามารถปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้รายละไม่เกิน 50,000 บาท และเรียกเก็บดอกเบี้ยแบบมีหลักประกันได้ไม่เกิน 33% ต่อปี และแบบไม่มีหลักประกันได้ ไม่เกินอัตรา 36% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก
ส่วนใบอนุญาตประเภทพิโกพลัส ต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สามารถปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้รายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยสินเชื่อในส่วนที่เกิน 50,000 บาทขึ้นไป เก็บอัตราดอกเบี้ยสูงสุดได้ไม่เกิน 28% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ไม่สามารถรับฝากเงินจากประชาชนได้ และสามารถเปิดให้บริการปล่อยสินเชื่อได้เฉพาะภายในจังหวัดที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น
นายกฤษฎา กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนต.ค. 66 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,132 ราย ใน 75 จังหวัด (ยกเว้นอ่างทอง และสิงห์บุรี) และ ณ สิ้นเดือนก.ย. 66 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วสะสม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,797,385 ล้านบัญชี รวมเป็นวงเงิน 36,431.83 ล้านบาท
"นิติบุคคลที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ สามารถดูข้อมูลรายการยื่นคำขออนุญาต ได้ที่ www.1359.go.th และสำหรับประชาชนที่สนใจขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ได้ที่ www.1359.go.th เช่นกัน" รมช.คลัง ระบุ