นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.58 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.96 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้ เงินบาทแข็งค่าจากท้ายตลาด เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดอลลาร์อ่อนค่า จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ย่อลง หลัง เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาพูดถึงการลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน ในภูมิภาค
"เงินบาทเช้านี้เปิดที่ 34.58 บาท/ดอลลาร์ เป็นระดับที่แข็งค่าสุด ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.66 หรือประมาณเกือบ 4 เดือน" นัก
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.55 - 34.85 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม วันนี้ คือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.50% ทั้งนี้ อาจมีการ ปรับประมาณการ GDP และเงินเฟ้อปี 66 และ 67
SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.75000 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 148.61 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1013 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0946 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.935 บาท/ดอลลาร์
- ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ประเมินว่า รอบนี้ กนง.จะยังคงอัตรา
- "ท่องเที่ยว" แจงจีนยกเลิก slot การบิน-ฟรีวีซ่า 6 ประเทศ ไม่กระทบไทย พร้อมกางยอด 11 เดือน ต่างชาติแห่เข้า
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำระยะถัดไปมีมุมมองในเชิงบวกจากเฟดมี
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไทยและอาเซียนกลาย
- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102.0 ในเดือนพ.
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (28 พ.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (28 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และ
- หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในขณะนี้อยู่ในระดับที่
- ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังปรับตัวลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่
- นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2)
และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนี
ราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales)
เดือนต.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.