พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม (ยธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยที่มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องหนี้ ซึ่งได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เรื่องนี้ถือเป็นวาระที่สำคัญ โดยมีการนำหนี้นอกระบบเข้าไปอยู่ในท้าย พ.ร.บ.นี้ ซึ่งต่อจากนี้ไป การปล่อยกู้ต้องไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ 15% ต่อปี
ส่วนที่จะนำเครือข่ายหนี้นอกระบบมาเป็นคดีพิเศษหรือไม่ จะมีการพิจารณา เช่น เราตีว่า 30 ล้าน หรือ 50 คนขึ้นไปที่ปล่อยกู้ โดยเมื่อตรวจสอบกับกรมบังคับคดี ก็จะมีกรณีลักษณะนี้ ซึ่งพบว่ามีเป็นหมื่นๆ คนฃ
"วันนี้จึงสั่งให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาเป็น ผอ.แก้ปัญหาลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นหนี้นอกระบบ โดยดีเอสไอจะเข้าไปดูแลร่วมกับตำรวจ ซึ่งจะใช้วิธีเข้าไปสืบสวนสอบสวนเครือข่าย ซึ่งจะช่วยบรรเทาเรื่องหนี้นอกระบบ" รมว.ยุติธรรม ระบุ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของหนี้นอกระบบ จะมีสำนักคุ้มครองพยานที่จะมาร่วมมือกับทางรัฐบาล โดยยืนยันว่า เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งและจริงจัง กระทรวงยุติธรรมก็จะยึดหลักความยุติธรรม ซึ่งปกติมักจะมีคนพูดกันว่าเป็นที่พึ่งสุดท้าย แต่เราจะเป็นที่พึ่งแห่งแรกในการแก้หนี้ให้กับประชาชน โดยใช้ยุติธรรมชุมชน และยุติธรรมจังหวัด นำความยุติธรรมไปถึงชาวบ้าน หยิบปัญหาหนี้ของประชาชนมาช่วยแก้ไข
"ทั้งหมดนี้ จะเป็นการทำตามนโยบายรัฐบาล และครั้งนี้ถือว่าเป็นการแก้หนี้ให้กับประชาชนแบบ 360 องศา และเชื่อว่ายั่งยืนต่อไป ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ในเรื่องของการแก้หนี้ให้กับประชาชนและเชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จ" พ.ต.อ.ทวีกล่าว
พร้อมระบุว่า หนี้ข้าราชการถือเป็นหนี้ที่น่าสงสารที่สุด เพราะถ้าถูกฟ้องล้มละลาย ก็ต้องถูกออกจากราชการ ถือเป็นมะเร็งร้าย ที่เราจะต้องมีวิธีคิดดอกเบี้ยใหม่
ส่วนหนี้บัตรเครดิตที่ต้องกำหนดดอกเบี้ย 18% นั้น เป็นเรื่องที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย จะเข้ามากำหนดเพดานและเข้ามาควบคุม เราต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงเรื่องอายุความ ก็จะทำให้เป็นการช่วยเหลือประชาชน ไม่ต้องถูกยึดบ้าน ประชาชนก็ไม่แพ้คดี