นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการเปิดเดินรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. ที่สถานีรถไฟชุมทางหนองปลาดุก จ.ราชบุรีว่า ปัจจุบันภาพรวมการดำเนินงานการก่อสร้างงานโยธา มีความคืบหน้ากว่า 97%
โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดก่อสร้างงานโยธา เพื่อให้สามารถเปิดใช้ได้โดยวิ่งแบบทางคู่ไปก่อน โดยใช้ระบบอาณัติสัญญาณเดิมในช่วงแรก ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร รวมระยะทาง 348 กม. ในวันที่ 15 ธ.ค.66 จากนั้นจะเปิดใช้ทางคู่ในช่วงที่สอง ระหว่างสถานีนครปฐม - บ้านคูบัว มีแผนที่จะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนเม.ย. 67 โดยคาดว่างานโยธาจะเสร็จและเปิดได้ตลอดสาย 421 กม. ได้ประมาณกลางปี 67 ส่วนงานระบบอาณัติ เสร็จ 100% ปี 68
ขณะที่งานสะพานกลับรถ (U-Turn)/สะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) ได้มีการเปิดใช้งานและยกเลิกทางข้ามเสมอระดับทางรถไฟ จำนวน 24 แห่ง จากทั้งหมด 30 แห่ง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ ให้กับประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย
รมช.คมนาคม กล่าวว่า เมื่อเปิดเดินรถไฟสายใต้ตามแผน จะเพิ่มความจุอีก 1 เท่า จะลดระยะเวลาเดินทางสายใต้ได้ ไม่ต้องรอหลีก เกิดประโยชน์ในการเดินทางที่ใช้ต้นทุนน้อยกว่าทางรถยนต์ โดยระยะทางจากกรุงเทพ -หัวหิน เหลือ 3 ชม, กรุงเทพ-ชุมพร เหลือ 6 ชม. เท่ารถยนต์ แต่ค่าเดินทางถูก และปลอดภัยกว่า
และหลังจากเปิดให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้แล้ว มีแผนจะเปิดบริการรถไฟทางคู่สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดบริการบางช่วงก่อน คือ ช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิต ระยะทาง 23 กม. คาดจะเปิดบริการเดือนช่วงหลังสงกรานต์ เดือน เม.ย. 67