ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนพ.ย.66 อยู่ที่ระดับ 49.0 ใกล้เคียงกับระดับ 48.9 ในเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นด้านต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่ด้านการจ้างงาน คำสั่งซื้อ และผลประกอบการปรับลดลง ความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิต ปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ความเชื่อมั่นในเกือบทุกองค์ประกอบปรับดีขึ้น ตามอุปสงค์ในกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ และกลุ่มพัฒนาพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ทยอยฟื้นตัว
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิต ปรับลดลงเล็กน้อย ตามกลุ่มผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงทุกด้าน ส่วนหนึ่งจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ความเชื่อมั่นด้านการผลิต และผลประกอบการลดลงตามอุปสงค์โลกที่ยังชะลอตัว สอดคล้องกับความเชื่อมั่นด้นการส่งออกที่ปรับลดลงมาก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจอื่นในภาคการผลิต ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.6 จาก 53.3 ในเดือนก่อน จากด้านการผลิตและผลประกอบการเป็นสำคัญ โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิต ปรับลดลงในหลายหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ จากคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอลง เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นที่ไม่ใช่ภาคการผลิตที่ปรับลดลง จากความเชื่อมั่นของกลุ่มการค้าที่ถูกกดดันจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มฐานราก ประกอบกับความไม่ชัดเจนของนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท
อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมและเกือบทุกหมวดธุรกิจ ยังอยู่เหนือระดับ 50 ได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นว่า ภาวะธุรกิจจะมีทิศทางดีขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ยกเว้นกลุ่มก่อสร้างที่ดัชนีฯ อยู่ระดับต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่วนหนึ่งจากงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการประมูลโครงการก่อสร้างของภาครัฐ