ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินสายลงพื้นที่ภาคอีสานก่อนร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกที่จังหวัดหนองบัวลำภูในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) โดยเดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินการของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว กข22, กข6 และพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 โดยปีนี้มีเป้าหมายการผลิต 1.9 ล้านกิโลกรัม และขยายเพิ่มเป็น 2.5 ล้านตันในปี 2569
จากนั้นได้เดินทางไปติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง B.K.77 ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่บ้านโพนแก้ว หมู่ที่ 10 ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ มีพื้นที่ปลูก 164 ไร่ ขณะที่ประเทศไทยมีแปลงใหญ่กล้วยหอมทองจำนวน 33 แปลง พื้นที่ 16,417 ไร่ ปริมาณการผลิต 74,182.45 ตันต่อปี ส่งออกไป 29 ประเทศ มูลค่า 485.36 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และลาว ตามลำดับ
"ปัจจุบันกล้วยหอมทองถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีความสำคัญ เนื่องจากกล้วยหอมทองมีความต้องการของตลาดต่างประเทศเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างมูลค่าให้กับประเทศไทย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมให้การสนับสนุนทั้งในเรื่ององค์ความรู้ ปัจจัยการผลิต การจัดทำมาตรฐาน GAP และเทคโนโลยี จึงมุ่งหวังให้พื้นที่จังหวัดบึงกาฬขยายจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในอนาคตต่อไป" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ต่อจากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมเกษตรกรชาวสวนยาง และเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปยางพารา ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ ซึ่งไม่ได้เปิดดำเนินการ เนื่องจากสหกรณ์เก่าถูกยุบไป ปัจจุบันเตรียมจัดตั้งเป็นสหกรณ์ใหม่ คือสหกรณ์ยางพาราบ้านตาลเดี่ยว ซึ่งเตรียมเข้าดำเนินการจดทะเบียนกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ หลังวันที่ 15 ธ.ค.นี้ และดำเนินการเช่าอาคารจากกรมธนารักษ์ เพื่อทำโรงงานแปรรูปยาง
"การลงพื้นที่ในวันนี้ต้องการมาบอกข่าวดีกับพี่น้องชาวบึงกาฬ ไม่เพียงแต่ในเรื่องของการเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรแล้ว ยังเตรียมดำเนินการในเรื่องการออกโฉนดต้นยางด้วย ซึ่งต้นยางหนึ่งต้นจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 บาท ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์ในต้นยาง เกษตรกรสามารถนำโฉนดต้นยางไปกู้และต่อทุน ถือเป็นการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนได้เพื่อต่อยอดการดำเนินการต่อไปได้" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว