นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ขนส่งสินค้า และรถไฟทางคู่ภาคอีสาน ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี-หนองคาย-หนองบัวลำภู ประกอบด้วย พื้นที่ย่านสถานีหนองตะไก้ สถานีนาทา สถานีหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างเชื่อมทางรถไฟ จากสถานีหนองตะไก้ เข้าสู่พื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี รวมทั้งแผนพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Yard) สถานีนาทา และแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคายที่จะเชื่อมไปยังสถานีท่านาแล้ง และเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) รองรับการขนส่งสินค้าโลจิสติกส์ผ่านแดนระหว่างไทย-ลาว-จีน
"การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการขับเคลื่อนนโยบาย Quick Win ของรัฐบาลในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านระบบขนส่งโลจิสติกส์ของประเทศ ให้สามารถเชื่อมโยงการขนส่งและการค้าของไทย-ลาว-จีน ได้อย่างสะดวก ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติสก์ และเศรษฐกิจภูมิภาคในอนาคต" นายสุรพงษ์ กล่าว
โดยโครงการก่อสร้างทางรถไฟจากสถานีรถไฟหนองตะไก้สู่นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีระยะทาง 3.7 กิโลเมตร จะช่วยเสริมศักยภาพการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมาก ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.66 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.67
จากนั้นเดินทางโดยขบวนรถไฟไปที่สถานีนาทา ผ่านจุดตัดบริเวณทางแยกบ้านจั่น ซึ่งเป็นแนวเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย โดยมอบนโยบายให้การรถไฟฯ แก้ไขปัญหาบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับ ทล.216 บริเวณแยกบ้านจั่น โดยปรับรูปแบบการสร้างรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าวเป็นทางยกระดับข้ามจุดตัดทางหลวง 216 อยู่ในระดับที่ 2 รองจากรถไฟความเร็วสูง พร้อมกับคงทางรถไฟทางเดี่ยวระดับพื้นดินเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก และแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถยนต์-รถไฟให้กับประชาชน
ส่วนโครงการพัฒนาย่านสถานี และศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา และย่านกองเก็บตู้สินค้า ขนาดเนื้อที่ 379 ไร่ ซึ่งจะช่วยขยายขีดความสามารถทางการขนส่งของจังหวัดหนองคาย ให้สามารถเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ระหว่างประเทศไทย-ลาว-จีน โดยขณะนี้การรถไฟฯ ได้ให้ที่ปรึกษาโครงการดำเนินการทบทวนรูปแบบการร่วมลงทุนให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ก่อสร้างไปพร้อมกับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย โดยจะใช้กรอบวงเงินของโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 มูลค่าการร่วมลงทุน 7,212 ล้านบาท ล่าสุดโครงการฯอยู่ระหว่างการเสนอให้คณะกรรมการรถไฟฯ ให้ความเห็นชอบ หลังจากนั้นจะนำเสนอ รมว.คมนาคม ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนเห็นชอบหลักการและเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการร่วมลงทุน และคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2571
ช่วงบ่ายได้นำคณะเดินทางไปยังบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ ซึ่งฝ่ายไทย และ สปป.ลาว จะร่วมลงทุนก่อสร้างร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย ซึ่งขณะนี้การรถไฟฯ อยู่ระหว่างการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการออกแบบรายละเอียดโครงการ มีกรอบระยะเวลาดำเนินการประมาณ 12 เดือน
จากนั้นไปติดตามความคืบหน้าโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ซึ่งล่าสุด ครม.ได้อนุมัติให้การรถไฟฯ ดำเนินการก่อสร้างโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 และมีกำหนดเวลาดำเนินการในเดือน พ.ค.67 ระยะเวลาดำเนินการ 36 เดือน คาดจะแล้วเสร็จประมาณเดือน พ.ค.70 ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงรายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA)และอยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติโครงการ คาดว่าเปิดให้บริการปี 72
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการระบบโลจิสติกส์และรถไฟทางคู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของไทยให้มีความสะดวก รวดเร็ว ส่งเสริมการเติบโตทางการท่องเที่ยว การค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดน การค้าผ่านแดนให้ขยายตัวได้อย่างมั่นคง เกิดการกระจายรายได้ ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้ตลอดแนวเส้นทาง และขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งคมนาคมของภูมิภาคได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล