ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เรียกร้องรัฐบาลตรึงค่าไฟงวดใหม่ หลังจากสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศผลการรับฟังความคิดเห็นค่า Ft หรือค่าไฟฟ้าผันแปร รอบเดือนม.ค.-เม.ย. 67 และมีมติเห็นชอบให้ปรับค่า Ft ที่ 89.55 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยจะสูงขึ้นไปที่ 4.68 บาท/หน่วย จากปัจจุบันที่ 3.99 บาท/หน่วย
กกร.ระบุว่า แม้ว่า รมว.พลังงาน มีแนวโน้มจะเสนอให้ปรับขึ้นค่าไฟมาที่ 4.20 บาท แต่ก็ยังสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวดี โดยเห็นว่าค่าไฟที่เหมาะสมน่าจะอยู่ในช่วง 2.70-3.30 บาท/หน่วย พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดตั้ง กรอ.พลังงาน เพื่อดูแลการแก้ปัญหาทั้งระบบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ค่าไฟที่จะปรับขึ้นงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 67 ที่ 4.68 บาท/หน่วย เป็นราคาที่สูงมาก โดยเพิ่มขึ้น 17% ส่งผลกระทบกับกลุ่มอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งที่ใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก โดยมีสัดส่วนพลังงานประมาณ 30-50% ของต้นทุน ดังนั้นต้นทุนค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ราคาสินค้าส่วนใหญ่ปรับขึ้น 5-10% และตลาดโลกที่ยังเปราะบางจากภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลต่อกำลังซื้อ หากสินค้าไทยต้นทุนสูงจะทำให้การส่งออกรวมทั้งการแข่งขันยากขึ้น
ดังนั้น อยากขอให้ภาครัฐพิจารณาแนวทางระยะสั้นตรึงราคาเดิมที่ 3.99 บาท/หน่วยไว้ก่อน จากนั้นในช่วงต้นปี 67 เร่งจัดตั้งกรอ.พลังงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เสียมาเจรจาหาแนวทางที่เหมาะสม และปรับโครงสร้างพลังงานทั้งระบบให้แก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าได้อย่างถาวร ซึ่งจะเป็นจุดแข็งในกับประเทศในการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นายเกรียงไกร กล่าวว่า จากกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน มีแนวคิดให้กดค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย. 67 ให้อยู่ที่ 4.20 บาท/หน่วยก็มองว่ายังเป็นราคาที่สูงเกินไป โดยต้นทุนเพิ่มขึ้นมาที่ประมาณ 5-6% ซึ่งจะหนุนราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 2-4% ทั้งนี้เป้าหมายที่แท้จริงคือการปรับราคาพลังงานในระดับที่แข่งขันได้อยู่ระหว่าง 2.70 - 3.30 บาท/หน่วย
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานส.อ.ท. กล่าวว่าปัญหาราคาไฟฟ้าเป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งได้เสนอกับทางรัฐบาลในการปรับโครงสร้างพลังงานให้เหมาะสม โดยการจัดตั้งกรอ.พลังงาน โดยในปี 67 ประเทศไทยมีความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจสูง นักลงทุนมีความต้องการให้ตรึงราคาไฟฟ้าที่ 3.99 บาท/หน่วยในอีก 4 เดือนข้างหน้า และจัดตั้งกรอ.เข้ามาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
โดยการแก้ปัญหาต้นเหตุค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ต้องปรับโครงสร้างการใช้พลังงานให้ถูกลง และแก้ปัญหา Over Supply รวมทั้งการเปิดเสรีทั้งการส่งไฟฟ้าผ่านสายไฟฟ้าและการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการลดลงทันที
อย่างไรก็ตาม มาตรการลดค่าไฟของรัฐบาลด้วยการยืดหนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทสไทย (กฟผ.) เป็นมาตรการที่ทำได้แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งการยืดหนี้ออกไปส่งผลให้กฟผ.มีหนี้มากขึ้น รวมทั้งการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องที่สำคัญ ปัจจุบันต้องเอางบประมาณในส่วนอื่นมาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง แต่ปัญหาสำคัญคือราคาไฟฟ้าควรมีแนวทางที่ทำให้ราคาต่ำลงมาอีกซึ่งการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจะเป็นวิธีการที่ยั่งยืนมากกว่า
https://youtu.be/zBH_JAa_O6M