นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ธันวาคม 2566 ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา จากระดับ 61.79 จุด มาอยู่ที่ระดับ 64.89 เพิ่มขึ้น 3.10 จุด หรือคิดเป็น 5.02% โดยมีสาเหตุมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือนธันวาคม 2566 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 339 ราย ในจำนวนนี้มี 130 ราย หรือเทียบเป็น 39% คาดว่าจะซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 113 ราย หรือเทียบเป็น 33% ไม่ซื้อทองคำ และจำนวน 96 ราย หรือเทียบเป็น 28% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ สรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และ ผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 9 ราย หรือเทียบเป็น 69% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือนธันวาคม 2566 จะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% จะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2566 และจำนวน 0 ราย หรือเทียบเป็น 0% คาดว่าจะลดลง สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือนธันวาคม 2566 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,960 - 2,115 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33,100 - 34,600 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 34.47 - 35.90 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ การลงทุนทองคำในเดือน ธันวาคม 2566 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำมีความผันผวนสูง โดยยังคงมีโอกาสปรับตัวในทิศทางเชิงบวก แต่หากราคาทองยังไม่ผ่านระดับสูงสุดเดิมได้ ราคาทองอาจมีโอกาสแกว่งตัวสร้างฐานเพื่อเป็นการสะสมแรงซื้อ
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคาทอง โดยเข้าซื้อหากราคาทองย่อตัว ไม่หลุดแนวรับ และให้แบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้านสำคัญ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2566 นี้ อาจมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง และควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ