นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.79/80 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า เปิดตลาดที่ระดับ 35.75 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.67 - 35.85 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคอ่อนค่ามาตั้งแต่ช่วงเช้า รับข่าวตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ โดยตัวเลขเงินเฟ้อ ออกมาตามคาดการณ์ และยังห่างจากตัวเลขเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พอสมควร ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะมี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งช่วงกลางปี 67 จากที่ตอนแรกมีบางส่วนมองว่าจะปรับอย่างเร็วช่วงเดือน มี.ค. 67
สำหรับคืนนี้ ตลาดรอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งตลาดคาดว่าเฟด จะคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ แต่ที่ตลาดรอจับตาคือแถลงการณ์ว่า หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้แล้ว ในปี 67 จะมีการปรับลด อัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงไหน และเงินเฟ้อไปถึงจุดที่เฟดมองว่าสามารถยับยั้งได้แล้วหรือไม่
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60 - 35.90 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 145.79/81 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 145.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0785/0789 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0791 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดที่ 1,357.97 จุด ลดลง 15.95 จุด (-1.16%) มูลค่าซื้อขาย 37,984.99 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 502.69 ลบ.
- นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ยอมรับว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นบ้าง จากหนี้
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงาน Monetary Policy
- ธปท. กล่าวถึงสถานการณ์เงินเฟ้อของไทยว่า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันจนถึงช่วงต้นปี 67 จะยังอยู่ในระดับต่ำ จาก
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีหากมีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำ มีมติเมื่อวันที่ 8 ธ.
- รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากสัปดาห์
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปี
- ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2567
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมที่ระดับ 5.25% ในการประชุมครั้งที่ 3
- รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนที่จะเสนอแรงจูงใจด้านภาษีเป็นเวลานานถึง 10 ปี เพื่อกระตุ้นการผลิตครั้งใหญ่ใน 5 ภาคส่วน ซึ่ง
รวมถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์