นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม เดินทางไปตรวจเยี่ยมภารกิจของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ณ หอควบคุมจราจรทางอากาศชุมพร จ.ชุมพร และศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยหอควบคุมจราจรทางอากาศ ทั้ง 2 แห่ง มีความคล้ายกันในเชิงกายภาพ คือ เป็นพื้นที่ติดชายทะเล มีความรับผิดชอบหลักเป็นเครื่องบินประเภทส่วนบุคคล เครื่องบินฝึกบินของโรงเรียนการบิน
รมช.คมนาคม กล่าวว่า จังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถเดินทางได้โดยทางรถ รถไฟ และเครื่องบิน กระทรวงคมนาคมได้เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว
ในส่วนท่าอากาศยานชุมพร มีจำนวนเที่ยวบินพาณิชย์รวม 2 เที่ยวบินต่อวัน โดยเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ เส้นทางท่าอากาศยานดอนเมือง-ชุมพร โดยมีหอบังคับการบินชุมพร ทำหน้าที่รับผิดชอบด้านการควบคุมการบินบริเวณเขตท่าอากาศยานชุมพร เพื่อก่อให้เกิดความรวดเร็ว แม่นยำ เที่ยงตรง และมีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ หอบังคับการบินชุมพร ยังมีความรับผิดชอบหลักให้บริการช่วยเดินอากาศยานเครื่องบินประเภทส่วนบุคคล และเครื่องบินฝึกบินของโรงเรียนการบิน
ทั้งนี้ เมื่อการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อจังหวัดชุมพรและภูมิภาคแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากจังหวัดชุมพร มีความโดดเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล โดยจะส่งผลให้ปริมาณการเดินทางของนักท่องเที่ยวทางอากาศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในอนาคต มีแผนการจัดสรรเที่ยวบินให้สอดคล้องตามจำนวนผู้โดยสาร เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร ตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล
นอกจากนี้ รมช.คมนาคม ยังได้ไปตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน ซึ่ง บวท. ได้นำเสนอโครงการพัฒนาเส้นทางการบินของเครื่องบินประเภท General Aviation (GA) โดยเฉพาะการออกแบบเส้นทางการบิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทางการบิน และไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ จึงต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ในทุกมิติ รวมทั้งได้เตรียมแผนสนับสนุนการท่องเที่ยวชายทะเล โดยใช้ Seaplane เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของเมืองท่องเที่ยวริมทะเล สร้างรายได้ และโอกาสให้นักลงทุนในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ รมช.คมนาคม
ขณะเดียวกัน บวท. ยังได้เสนอแผนในการสร้างอาคาร Support Buliding ใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณเที่ยวบินในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้เครื่องบินส่วนบุคคล และประเภท Private jet เพื่อมาท่องเที่ยวและพักผ่อน เนื่องจากอำเภอหัวหินมี ศักยภาพสูง การท่องเที่ยวแบบหรูหรา (Luxury Tourism) กำลังเติบโตและเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งจากนักท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก อีกทั้งท่าอากาศยานหัวหิน ยังสามารถที่จะพัฒนาเส้นทางการบินเชื่อมต่อทั้งเมืองหลัก และเมืองรองในประเทศ และต่างประเทศได้ในอนาคต ซึ่งจะดึงเม็ดเงินการท่องเที่ยวและการลงทุนมาสู่พื้นที่ได้อย่างมหาศาล