นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กล่าวถึง คนที่ลงทะเบียนที่ใช้ดอกเบี้ยท่วมเงินต้นไปแล้วต้องมีการเจรจากัน ถ้าจ่ายแล้วหลายรอบยังไม่ยอมปลดหนี้ ยังทบต้นเป็นสิบๆ รอบก็ต้องจบ ถ้าไม่จบดอกเบี้ยที่คิดเกินไป ภาษีที่ไม่ได้จ่าย โดนเบี้ยปรับมากกว่าเงินต้นหลายเท่า และจะมีความผิดทางอาญาด้วย
การแก้ปัญหาเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้มอบหมายให้เฉพาะฝ่ายปกครองและตำรวจเข้ามาทำหน้าที่ดูแล แต่ยังได้ตั้งอัยการและกระทรวงการคลังเข้ามาด้วย เพราะหากมีความจำเป็นต้องใช้กฏหมายต่างๆ เข้าไปจัดการดูแล พยายามดูว่า จะดึงหนี้นอกระบบเข้ามาในระบบได้อย่างไร และสถาบันการเงินของรัฐจะช่วยเหลืออย่างไร ต้องทำภาพรวมให้ดีที่สุด
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานอนุกรรมการ และผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้องเป็นอนุกรรมการ โดยมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ เชิญหน้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ความเห็น หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
พร้อมเห็นชอบมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ 3 ด้าน ประกอบด้วย
1) ด้านการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ โดยมีกรมการปครองเป็นเจ้าภาพหลัก และมีสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมสนับสนุน โดยนับแต่เริ่มปิดลงทะเบียนจนถึง 18 ธ.ค. 66 (เวลา 11.30 น.) ปรากฏว่ามีลูกหนี้มาลงทะเบียนแล้ว 99,484ราย คิดเป็นมูลหนี้ 5,926 ล้านบาท โดยในระหว่างการลงทะเบียนดังกล่าวก็มีการเชิญเจ้าหนี้ลูกหนี้มาทำการไกล่เกลี่ยโดยใช้กลไกของฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมกับตำรวจและพนักงานอัยการ โดยทางเจ้าหนี้-ลูกหนี้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะมีการทำบันทึกประนีประนอมไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 20 ราย
2) ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยบูรณาการร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครอง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ช่วยเหลือซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้กำลังประทุษร้ายลูกหนี้ไปแล้วบางส่วน รวมทั้ง เรียกเจ้าหนี้มาทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอีกด้วย
3) ด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน จะมีกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับสถาบันทางการเงินของรัฐในการปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขน้อยและอาจมีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้เข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้ตามสาเหตุแห่งการเป็นหนี้ ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทยให้การสนับสนุนด้าน การหาอาชีพเสริม สนับสนุนปัจจัยการผลิต นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบตัวชี้วัดการดำเนินการทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย ตัวชี้วัดการไกล่เกลี่ยของกรมการปกครอง กำหนดการเจรจาไกล่เกลี่ยได้อย่างน้อย 80% ของลูกหนี้ในระบบและเจ้าหนี้ตามฐานข้อมูล โดยสามารถตกลงกันได้ไม่น้อยกว่า 50% ด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมด 70% ของเรื่องรับดำเนินการ ระยะเวลาดำเนินการหากเป็นสำนวนไม่ยุ่งยากดำเนินการเสร็จใน 3 เดือน กรณีมีความซับซ็อนไม่เกิน 3 เดือน ส่วนของด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งจะต้องได้รับการให้สินเชื่อโดยธนาคารออมสินและนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีเป้าหมายผู้ได้รับความช่วยเหลือที่ 70% ของผู้ลงทะเบียน