ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังราคาน้ำมันพุ่ง

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จุดปะทุให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์และยูโรแข็งแกร่งขึ้น ก่อนที่จะมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษในช่วงปลายสัปดาห์นี้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรแข็งขึ้นแตะระดับ 1.5489 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.5428 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 1.9719 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9710 ดอลลาร์/ปอนด์
          หากเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์สวิส ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 104.80 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 105.35 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0533 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0575 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งขึ้นแตะระดับ 0.9466 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ  0.9359 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 0.7855 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7804 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
          ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นทำนิวไฮที่ 120.36 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจจะกระทบต่อราคาสินค้าและการบริการในสหรัฐ
          สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 52.0 จุด เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ที่ระดับ 49.6 จุด ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 49.1 จุด โดยดัชนีที่ระดับสูงกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว
          แม้ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด แต่ก็ไม่อาจต้านทานปัจจัยลบจากข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า ภาคการธนาคารในสหรัฐยังคงตกอยู่ในภาวะสภาพคล่องตึงตัว
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.2551 ปรับตัวลดลง 20,000 ตำแหน่ง แต่นับว่าดีขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ดิ่งลงอย่างหนัก 81,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เกตส์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะทรุดตัวลงแตะ 75,000 ตำแหน่ง    
          นอกจากนี้ อัตราว่างงานประจำเดือนเม.ย.2551 ยังขยับลงไปอยู่ที่ระดับ 5.0% จาก 5.1% ในเดือนมี.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นแตะ 5.2%
          อัตราการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการดีดตัวขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในภาคธุรกิจก่อสร้างลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันที่ 61,000 ตำแหน่ง ส่วนยอดการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตทรุดตัวลง 46,000 ตำแหน่ง