นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ได้เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ ตามแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบของรัฐบาล
โดยคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ ต้องเป็นเกษตรกร หรือบุคคลในครัวเรือนเกษตรกร ที่ลงทะเบียนในโครงการไกล่เกลี่ยแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล รายละไม่เกิน 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน (Flat Rate) ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 งวดแรก (ชำระดอกเบี้ยปกติ) หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาชำระคืนเงินงวดสูงสุดไม่เกิน 3 ปี เริ่มจ่ายสินเชื่อตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2567 หรือเต็มวงเงิน 7,500 ล้านบาท
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านสินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ รายละไม่เกิน 200,000 บาท กรณีเพื่อสงวนที่ดิน รายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยตามชั้นลูกค้า ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 12 ปี และสินเชื่อกองทุนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน ซึ่ง ธ.ก.ส. ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 2.5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี กรณีชำระหนี้ตามกำหนด ดอกเบี้ยลดลงเหลือ 2-4% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 20 ปี
พร้อมเสริมองค์ความรู้และศักยภาพในการประกอบอาชีพ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและยืนได้อย่างมั่นคง และสงวนที่ดินไว้ไม่ให้ตกไปเป็นของผู้อื่น ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เกษตรกรลูกค้าและบุคคลในครัวเรือน ให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบของ ธ.ก.ส. ไปแล้วกว่า 712,518 ราย เป็นเงินกว่า 60,355 ล้านบาท