ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองธุรกิจสุขภาพและเวสเนส (Health & Wellness) กำลังมาแรง โดยมูลค่าตลาดสุขภาพและเวลเนสของไทยมีขนาดใหญ่มากราว 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2562 คิดเป็น 8% ของ GDP โดยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจาก 4 เมกะเทรนด์สุขภาพ ได้แก่ การก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์, พฤติกรรมการใส่ใจสุขภาพมากขึ้นของผู้บริโภค, อัตราการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มสูงขึ้น และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งจะสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจได้เติบโต
หลังผ่านวิกฤตโควิด-19 ผู้บริโภคชาวไทยให้ความใส่ใจต่อสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้บริการด้านสุขภาพและเวลเนสเพิ่มสูงขึ้นตามมา โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจสุขภาพและเวลเนสด้านบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละธุรกิจมีฐานลูกค้าหลักและพฤติกรรมการใช้บริการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน
สำหรับกลุ่มธุรกิจสุขภาพและเวลเนสด้านบริการและการท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง ได้แก่
- ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นธุรกิจที่กลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยให้ความสำคัญและพร้อมที่จะใช้จ่าย เนื่องจากผู้บริโภคกว่า 70% มีพฤติกรรมเลือกรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารบางประเภท และเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งมีผู้บริโภคจำนวนมากที่อยู่ระหว่างลด/ควบคุมน้ำหนัก กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพที่ผู้บริโภคสนใจและหาซื้ออย่างต่อเนื่องจะอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มสุขภาพ กลุ่มอาหารทั่วไปแต่หลีกเลี่ยงบางประเภท เช่น อาหารรสหวาน-มัน-เค็มจัด หรือสารก่อมะเร็ง และกลุ่มอาหาร Organic ทั้งนม ไข่ ผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ โดยราคา รสชาติ ความสะดวก และความชื่นชอบถือเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเลือกซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ โดยกลุ่มผู้บริโภค Gen Z จะหาข้อมูลอาหารสุขภาพตามรีวิวออนไลน์มากกว่ากลุ่มอื่น นอกจากนี้ผู้บริโภคที่สนใจอาหารเพื่อสุขภาพยังมีการซื้ออาหารเสริมควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะอาหารเสริมเพื่อเสริมสุขภาพและโภชนาการ
- ธุรกิจออกกำลังกาย เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะในธุรกิจอุปกรณ์เสริมในการออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจให้บริการออกกำลังกายอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมผู้ออกกำลังกายที่คุ้นชินกับการออกกำลังกายที่บ้านมากขึ้นต่อเนื่องจากช่วงโควิด-19 เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งนี้ผู้บริโภคกว่า 90% ระบุว่ามีการออกกำลังกาย และส่วนใหญ่นิยมการเดินออกกำลังกาย โดยเฉพาะใน Baby boomer, การวิ่งใน Gen Z, การเข้ายิม/ฟิตเนสในกลุ่ม Gen Y และคลาสโยคะพิลาทิสใน Gen X อีกทั้งมีสถานที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญในการไปออกกำลังกาย
- ธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านความงาม เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวสดใส โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ กลุ่มผู้หญิงและ LGBTQIA+ เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญและพร้อมที่จะใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ด้านความงามสูง โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเป็นกลุ่มที่ผู้บริโภคให้ความสนใจสูงสุด ตามด้วยการดูแลผิวกายและการป้องกันแสงแดด ซึ่งผู้บริโภคเลือกใช้แบรนด์ทั่วไปเป็นหลัก รองลงมาเป็นเวชสำอางต่างชาติ และเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่กลุ่ม Gen Z จะนิยมแบรนด์ไทยที่โปรโมตในออนไลน์สูงกว่า นอกจากนี้ผู้บริโภคจะพร้อมจ่ายมากขึ้นหากเป็นผลิตภัณฑ์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ Organic
- ธุรกิจนวดและสปา เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงาน แม้ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังใช้บริการนวดและสปาค่อนข้างน้อย โดยบริการนวดแผนไทยในร้านนวดขนาดเล็กยังยืนหนึ่งครองใจผู้บริโภคด้วยค่าบริการที่ไม่แพงนัก แถมยังมีบริการที่หลากหลาย ตามด้วยสปาขนาดกลาง-ใหญ่ที่ออกโปรโมชันอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้การบริการนวดและสปารูปแบบใหม่ๆ เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นแต่ยังมีผู้ใช้บริการเฉพาะกลุ่ม
- ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงจากกระแสการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แม้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของนักท่องเที่ยวไทยยังเน้นการออกมาใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย แต่การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและเวลเนสโดยเฉพาะ หรือการทำกิจกรรมเวลเนสระหว่างการท่องเที่ยวก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวสายสุขภาพไม่น้อย ซึ่งบริการที่นักท่องเที่ยวสายสุขภาพส่วนใหญ่สนใจที่จะใช้บริการระหว่างท่องเที่ยว ได้แก่ บริการนวดและสปา อาหารเพื่อสุขภาพ และห้องพักที่ใส่ใจสุขภาพของผู้เข้าพัก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคแต่ละคนมีเป้าหมายด้านสุขภาพและเวลเนสที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามวิถีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมเสี่ยง ธุรกิจด้านสุขภาพและเวลเนสจึงจำเป็นต้องศึกษาและเข้าใจเป้าหมายของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม โดย 3 กลยุทธ์หลักที่จะสามารถดึงดูดผู้ใช้บริการและเสริมจุดแข็งของธุรกิจให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ได้แก่
1.การนำเสนอแพ็กเกจสินค้า/บริการสุขภาพและเวลเนสที่ครอบคลุมในหลากหลายด้าน เนื่องจากผู้ซื้อสินค้า/ใช้บริการด้านสุขภาพมักจะเป็นกลุ่มรักสุขภาพและสนใจบริการเวลเนสที่หลากหลายควบคู่กัน เช่น ผู้สนใจในอาหารเพื่อสุขภาพมักจะสนใจการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในการขยายขอบเขตไปยังด้านอื่นๆ ของธุรกิจเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม แต่อาจต้องเลือกขยายบริการที่เหมาะสมกับจุดแข็งของตนเอง หรือหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีจุดแข็งในด้านนั้นๆ เพื่อไม่สร้างภาระต่อธุรกิจในระยะข้างหน้า
2.การนำเสนอบริการในรูปแบบ Personalization หรือการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล เนื่องจากผู้ใช้บริการด้านสุขภาพและเวลเนสส่วนใหญ่มีความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) ดังนั้นการแสดงถึงความเอาใจใส่และความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มจะสามารถดึงดูดผู้ใช้บริการใหม่และมัดใจผู้ใช้บริการเดิมได้ อีกทั้งธุรกิจยังสามารถออกแบบการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการได้ตรงจุดมากขึ้น
3.การตั้งราคาที่เข้าถึงได้ จากการที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจว่าสินค้า/บริการด้านสุขภาพและเวลเนสจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าปกติ ซึ่งการสร้างความเข้าใจใหม่ควบคู่ไปกับการตั้งราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้นถือเป็นโจทย์อันท้าทายของผู้ประกอบการ