นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีอำนาจเข้าไปก้าวก่าย เพราะ ธปท. เป็นองค์กรอิสระ ซึ่งการพูดคุยวันนี้ เป็นการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล
"ไม่ได้ไปสั่ง ผมอธิบายเหตุผลให้ฟัง ท่าน (ผู้ว่าฯ ธปท.) ก็อธิบายเหตุผลในสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ในแง่สถานการณ์ต่างประเทศ สถานการณ์เงินเฟ้อทั้งหมด ซึ่งเงินเฟ้อติดลบ ให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยแถลงเองดีกว่า" นายเศรษฐา กล่าว
ขณะที่ในมุมของนายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงสถานการณ์ตลาดปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งภาคธุรกิจต่างๆ, ความเดือดร้อนของประชาชนในด้านหนี้สิน ซึ่งผู้ว่าฯ ธปท. ได้บอกได้ทราบว่าขณะนี้ ธปท.กำลังดำเนินการอะไรอยู่บ้าง เช่น การแก้ไขหนี้สินระยะยาว ซึ่งก็ได้บอกไปว่า ผู้ว่าฯ ธปท. สามารถนัดหมายให้นายกฯ ไปพูดคุย ไปดื่มกาแฟที่แบงก์ชาติได้ เผื่อจะได้พูดคุยอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเลต เห็นว่าควรนำไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเลตจะดีกว่า เพราะเป็นการประชุมที่เปิดเผย ไม่มีการล็อบบี้กัน สามารถพูดคุยได้อย่างเต็มที่ และแสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา ส่วนประเด็นเรื่องเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตหรือไม่นั้น ไม่ได้มีการหารือกัน เป็นแต่เพียงการพูดคุยถึงเศรษฐกิจในภาพรวม
สำหรับปัญหาหุ้นกู้หลายตัวที่เริ่มผิดนัดชำระนั้น นายกรัฐนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการไปแล้วให้มีการดูว่า หุ้นกู้ที่ระดับต่ำกว่า Investment Grade ซึ่งต้องไปพูดคุยว่าจะทำอย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีเงินเฟ้อติดลบที่มองกันว่าหากหักมาตรการช่วยเหลือด้านราคาพลังงานของรัฐบาลออกไป จะทำให้เงินเฟ้อติดลบไม่มากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้นมากนัก อาจจะแค่ 0.1-0.2% เท่านั้น แต่เห็นว่าควรให้ ธปท.ชี้แจงเองจะดีกว่า อย่างไรก็ดี การลดราคาพลังงานเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องลดรายจ่ายของประชาชน และจะต้องดูโครงสร้างราคาพลังงานที่ทุกคนยอมรับกันได้