นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มองว่า ในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งในระยะข้างหน้า ดอกเบี้ยควรปรับทิศทางให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีแนวโน้มลดลงในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น จากทั้งในประเทศ และนอกประเทศ
"กกร. ยังเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับที่สูง หวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ถ้าเฟดปรับลงเมื่อไร ก็ควรจะทำทันที เราคาดว่าไตรมาสที่ 2 คงจะมีแนวทางในการปรับอัตราดอกเบี้ยให้มีความเหมาะสม" นายสนั่น ระบุ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 2/67 ซึ่งกรณีธนาคารออมสินนำร่องลดดอกเบี้ย MRR นับเป็นเรื่องที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SME แต่ปัญหาสำคัญคือ ผู้ประกอบการ SME ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้
สำหรับเอกชนมีปัญหาเรื่องชำระคืนหุ้นกู้นั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการจัดทำงบประมาณปี 67 ล่าช้า ทำให้ภาครัฐค้างชำระค่าจ้างเอกชน ส่งผลให้เอกชนขาดเงินทุนหมุนเวียน
ประธาน สอท. เชื่อว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของรัฐบาล จะช่วยเพิ่มการบริโภคในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ในขณะที่การจัดทำงบประมาณปี 67 มีความล่าช้า ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหลุมดำที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงไป
ทั้งนี้ กกร. มีความกังวลเรื่องปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และหวังว่าปัญหาจะไม่ขยายวงลุกลามมากขึ้นไปยังภูมิภาคที่จะส่งผลต่อระบบขนส่ง ห่วงโซ่การผลิต และราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งใหญ่ในอีก 50 ประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ซึ่งจะมีผลต่อนโยบายในต่างๆ
"สถานการณ์ในฉนวนกาซา ถึงแม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ส่งผลกระทบต่อโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนส์ ซึ่งหวังว่าปัญหาจะไม่ลุกลามไปยังภูมิภาค" นายเกรียงไกร กล่าว