อาร์เธอร์ ยัพ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า ฟิลิปปินส์เตรียมหาหนทางซื้อข้าวใหม่ท่ามกลางสถานการณ์อุปทานข้าวทั่วโลกที่ตึงตัว หลังจากที่การยื่นประมูลข้าวครั้งล่าสุดประสบความล้มเหลว
รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้กำหนดรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างแบบเสริมในการตกลงกับซัพพลายเออร์จากประเทศต่างๆเพื่อสร้างเสถียรภาพอาหารในประเทศ โดยฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศนำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก
รมว.เกษตรกล่าวว่า การยื่นประมูลข้าวจำนวน 675,000 ตันของสำนักงานอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NFA) เมื่อวานนี้ประสบความล้มเหลว เนื่องจากซัพพลายเออร์จากต่างประเทศต้องการขายข้าวให้ในเฉพาะกรณีที่การซื้อขายนั้นๆจะไม่ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการเจรจาภายใต้การประมูลแบบเปิด เพราะอาจทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น และฟิลิปปินส์จะเจรจากับซัพพลายเออร์ข้าวโดยตรงแทนการประมูล
ฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น และรัฐบาลเองก็กำลังหาทางเพื่อช่วยให้ผู้ยากไร้ให้สามารถเข้าถึงข้าวที่ทางรัฐบาลจัดสรร โดยจนถึงขณะนี้ เวียดนามได้นำเข้าข้าวแล้ว 1.7 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเวียดนามและไทย จากที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะขาดแคลนข้าว 2.7 ล้านตันในปีนี้
ยัพกล่าวว่า ฟิลิปปินส์กังวลว่าปริมาณข้าวในสต็อกอาจลดลง เนื่องจากประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกซึ่งอาศัยน้ำฝนเป็นส่วนใหญ่
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ราคาข้าวและวัตถุดิบสำคัญปรับตัวสูงขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุวุ่นวายในประเทศยากจนหลายแห่ง
ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า ราคาอาหารที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนในเอเชียนับพันล้านคนเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนอาหาร ซึ่งอัตราการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่มากขึ้น กฏข้อบังคับด้านการค้า ความต้องการจากเอเชียที่เพิ่มขึ้น ผลผลิตด้านการเกษตรที่ลดลง และต้นทุนด้านการขนส่งที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--