การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวโครงการ "THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE" โดยนำเสนอ Soft Power 5F ของไทย ได้แก่ Food (อาหาร) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) Film (ภาพยนตร์) Fight (มวยไทย) และ Festival (เทศกาลประเพณีไทย) เพื่อขานรับนโยบาย Soft Power ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันในวันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ 2567 ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า การจัดกิจกรรม "THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE" ครั้งนี้ ททท. ได้ร่วมกับ GUINNESS WORLD RECORDS จัดการแข่งขันใน 5 หัวข้อที่สุดของโลก ได้แก่
1. ใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุดใน 1 นาที
2. ใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที
3. กินสตรีทฟู้ด (ปาท่องโก๋) มากที่สุดใน 1 นาที
4. ใส่หน้ากาก (หน้ากากผีตาโขน) ได้มากที่สุดใน 1 นาที
5. กินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุดใน 1 นาที
โดยการแข่งขันแต่ละรายการ ได้เลือกเอาสินค้าท่องเที่ยวและ Soft Power ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมานำเสนอ อาทิ "ปาท่องโก๋" ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 5 ขนมสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกจาก TasteAtlas ขณะที่ "กางเกงช้าง" เป็นที่รู้จักและเป็นของฝากยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วน "มวยไทย" เป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลก และเทศกาล "ผีตาโขน" ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
นายนิธี กล่าวว่า เกือบ 100% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยได้รับอิทธิพลจาก Soft Power ทั้งอาหารการกิน เทศกาล แฟชั่น เป็นต้น โดยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวหมวดที่มากที่สุดคือ ของที่ระลึก และของฝากถึง 1 ใน 4 นอกจากนั้นจะเป็นเรื่องค่าโรงแรม ค่าเดินทาง และค่าอาหาร ซึ่งปีนี้อาจเป็นปีแรกที่จะมีการเชื่อมโยงตัวชี้วัด กับข้อมูลเชิงลึกพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกับ Soft Power ด้วย
ในส่วนของการให้วีซ่าพิเศษ 90 วัน (จากวีซ่าปกติ 60 วัน) ให้แก่คนที่สนใจจะเข้ามาเรียนมวยไทย นายนิธี กล่าวว่า จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต้องการมีประสบการณ์จริง ดังนั้น คนที่สนใจมวยไทยก็อาจสนใจมาเรียนที่ไทย แทนที่จะเรียนที่ประเทศตนเอง
สำหรับแผนการสื่อสารการตลาดในปี 67 ททท. จะทำงานร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ เซเลบริตี และแพลตฟอร์มภาพยนตร์ เช่น VIU, IQIYI, Netflix หรือ Disney เป็นต้น รวมถึงการดึงอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาในไทย
"ปัจจุบัน ททท. ทำการตลาดโดยการดึงอินฟลูเอนเซอร์จากทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 400-500 คน/ปี สำหรับปีนี้เปิดตัวตลาดจีนก่อน 100 คน" นายนิธี กล่าว
นายสุพจน์ วงศ์จรัสรวี คณะปรึกษารมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กิจกรรม "THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS& CHALLENGE" เป็นการขานรับนโยบายยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ได้จัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลก เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่าน Soft Power ในแง่ของการแสดงอัตลักษณ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทย เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้าน Soft Power รวมถึงดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
"เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 67 ตั้งเป้าอยู่ที่ 35 ล้านคน มากกว่าปี 66 ที่ทำได้ 28 ล้านคน เชื่อว่ากิจกรรมดังกล่าวจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามา นอกจากนี้ จะมีการขยายระยะเวลาวีซ่าให้นักท่องเที่ยวอยู่นานขึ้น ซึ่งนายกฯ อยากขยายต่อจากเดิมที่มีอยู่แล้ว อย่าง 29 ก.พ.67 นี้ประเทศจีนจะหมดเป็นประเทศแรก ส่วนรายละเอียดต้องรอรัฐมนตรีแถลงต่อไป" นายสุพจน์ กล่าว