นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย สมาคมอุตสาหกรรมนมและอาหาร รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดและผลิตภัณฑ์นม ว่า จากที่คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (Milk Board) มีมติให้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำนมโคดิบ อีก 2.25 บาท/กก. หรือจากเดิม 20.50 บาท/กก. เป็น 22.75 บาท/กก.นั้น จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตนมสด และผลิตภัณฑ์นมปรับสูงขึ้น
ดังนั้นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายฯ ได้ขอให้กรมการค้าภายใน พิจารณาปรับราคาจำหน่ายนมสดและผลิตภัณฑ์นม ตามมติ Milk Board และขอให้พิจารณาต้นทุนส่วนอื่นๆ ที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งกรมฯ ได้รับทราบข้อเสนอดังกล่าว และได้ชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
โดยในเรื่องนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้มอบนโยบายไว้ต้องมีความสมดุล และทุกฝ่ายอยู่ได้ ซึ่งกรมฯ ยังคงยึดหลักกการเดิม ที่จะปรับเพิ่มขึ้นเฉพาะในส่วนของต้นทุนน้ำนมโคดิบที่สูงขึ้นตามมติ Milk Board โดยจะพิจารณาตามสัดส่วนการใช้น้ำนมดิบในแต่ละผลิตภัณฑ์ และตามขนาดบรรจุภัณฑ์เท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการรับทราบนโยบายและเข้าใจถึงสถานการณ์
สำหรับการขอปรับขึ้นราคานั้น บริษัทผู้ผลิต จะต้องแสดงหลักฐานการรับซื้อน้ำนมโคดิบ ว่าได้ซื้อในราคาที่สอดคล้องกับประกาศของ Milk Board (ไม่ต่ำกว่า 22.75 บาท/กก.) โดยต้องยื่นข้อมูลสัดส่วนการใช้น้ำนมโคดิบด้วย เนื่องจากนมสดและผลิตภัณฑ์นมแต่ละยี่ห้อ แต่ละสูตร ก็อาจใช้น้ำนมโคดิบในสัดส่วนที่แตกต่างกัน การพิจารณาอนุญาตให้ก็จะพิจารณาให้ตามต้นทุนน้ำนมโคดิบที่สูงขึ้นจริง ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป
รายงานข่าว ระบุว่า การอนุมัติปรับขึ้นราคานมและผลิตภัณฑ์นมดังกล่าว ตามต้นทุนน้ำนมโคดิบที่สูงขึ้นนี้ จะมีผลให้นมกล่อง UHT ขนาด 180-225 มิลลิลิตร ปรับขึ้นอีก 0.25-0.50 บาท แต่หากเป็นขนาดบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่กว่านั้น ก็จะปรับขึ้นตามสัดส่วน เช่น ขนาด 1 ลิตร อาจปรับขึ้นอีก 1-2 บาท เป็นต้น