โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังรายงานมายังทำเนียบรัฐบาลว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 น่าจะขยายตัวได้ 1.8% เนื่องจากแรงกดดันจากการหดตัวของภาคอุตสาหกรรม การส่งออกและการนำเข้า ขณะที่คาดว่าปี 67 เศรษฐกิจจะเร่งตัวขึ้นเป็น 2.8% หลังภาคส่งออกฟื้นกลับมาเติบโตได้ และการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ อย่างไรก็ดี ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด
กระทรวงการคลัง ยังระบุว่าการที่เศรษฐกิจไทยในปี 66 ชะลอตัวลงจากปี 65 ที่ขยายตัวได้ 2.6% มีปัจจัยสำคัญจากการหดตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าในหมวดยานยนต์ และคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมคาดมูลค่าการส่งออกทั้งปี 66 หดตัว -1.5% ตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัว ขณะที่ปัจจัยหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวขยายตัวสูง และการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ
ส่วนปี 67 คาดเศรษฐกิจจะเร่งตัวขึ้นไปที่ 2.8% (ช่วงคาดการณ์ 2.3-3.3%) จากทุกเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกสินค้าและบริการกลับมาขยายตัวสูง ส่วนภาคท่องเที่ยวคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามา33.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.5% โดยเฉพาะจีนและมาเลเซีย รายได้จากการท่องเที่ยวของต่างชาติ 1.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6%
นอกจากนี้ การส่งออกแนวโน้มขยายตัวได้ตามอุปสงค์ในตลาดโลก และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง แม้จะชะลอลงเล็กน้อย คาดมูลค่าส่งออกฟื้นมาเติบโต 4.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดไว้ที่ 1.0% (ช่วงคาดการณ์ 0.5-1.5%) เร่งตัวขึ้นตามอุปสงค์ภายในประเทศ ดุลบริการมีแนวโน้มจะกลับมาเกินดุลตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.8% ของ GDP
กระทรวงการคลัง แนะนำว่าควรติดตามปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด อาทิ 1.ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่อาจรุนแรงขึ้น อาจเป็นข้อจำกัดและส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะถัดไป 2.สถานการณ์การเลือกตั้งผู้นำของประเทศคู่ค้าสำคัญอาจส่งผลต่อนโยบายระหว่างประเทศ 3. ความผันผวนของตลาดการเงินโลก จากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก และปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป และ 4. สถานการณ์เศรษฐกิจจีนอาจกระทบต่อการส่งออกและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของไทย
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีกำหนดจะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยปี 66 และแนวโน้ม 67 ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.)