นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ในฐานะ รมว.คลัง ไม่เคยใช้อำนาจขอดูข้อมูลเศรษฐกิจก่อน หลังจากมีเอกสารของกระทรวงการคลังที่จะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 66-67 หลุดออกมาก่อนกำหนดแถลงวันนี้ โดยในเอกสารระบุว่ากระทรวงคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 น่าจะขยายตัวได้แค่ 1.8% ชะลอตัวลงจากปี 65 ที่ขยายตัว 2.6% ส่วนตัวเลขจะออกมาอย่างไรนั้นขอให้รอการแถลงอย่างเป็นทางการจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในวันนี้
"ไม่ยืนยันข้อมูล ถึงแม้ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผมไม่เคยขออะไรมาดูก่อน สศค.มีความเป็นอิสระในการทำตัวเลข ต้องให้เกียรติผอ.สศค.ด้วย"นายเศรษฐา กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี เพราะรัฐบาลพยายามหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดเวลา และมั่นใจว่า จะมีนโยบายอื่นๆตามมาด้วย ไม่ใช่แค่ดิจิทัล วอลเล็ตอย่างเดียว ซึ่งได้มีการพูดคุยกับรมช.คลัง และผอ.สศค.ตลอดเวลาในทุกๆเรื่อง เช่น มาตรการกระตุ้นทางด้านภาษีและหลายๆมาตรการแต่ไม่ขอพูดว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ต.ค. 66 สศค. ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 จะขยายตัวที่ 2.7% (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.2-3.2%)
ส่วนกรณีผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า ประเทศยังไม่วิกฤตนั้น และกรณีนโยบายการเงินกับนโยบายการคลังที่ดูเหมือนไม่สอดประสานกันกระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุนนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า อาจมีเห็นต่างกันบ้างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และแต่ละคนก็มีหน้าที่ต้องทำไป แต่เชื่อว่า สศค.กับธปท. มีการคุยกัน ส่วนเรื่องการลดดอกเบี้ยต้องถามจากธปท.
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนว่า ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจ เรื่องสำคัญคือ เรื่องความมั่นใจในแง่ของที่มีคนมากระทำผิด แต่ยังไม่สามารถจับกุมมาลงโทษได้ โดยเฉพาะในกรณีของ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) และบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) แต่ได้มีการสั่งการไปแล้ว และวันนี้มีนัดหมายพูดคุยกับรมว.ยุติธรรมด้วย เรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งมีขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม และยอมรับว่า นักลงทุนอาจยังไม่มีความมั่นใจในเรื่องนี้ เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องทำหน้าที่ต่อไป
https://youtu.be/sJPSgR7MlhE