นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมฯ เตรียมพิจารณาปรับราคาประเมินที่ดิน 11 ล้านแปลงทั่วประเทศ หลังพบราคาซื้อขายจริงในท้องตลาดสูงขึ้นไปเกินกว่า 15% โดยจับตาการปรับราคาประเมินบริเวณใจกลางเมืองย่านสยาม ขณะที่ราคาประเมินย่านสีลมยังครองแชมป์
"ในปี 2567 เตรียมปรับราคาประเมินที่ดินรอบใหม่รวม 11 ล้านแปลงทั่วประเทศ จากทั้งหมด 33.4 ล้านแปลง เนื่องจากไม่ได้มีการประกาศปรับราคารอบใหม่ตั้งแต่ปี 2562 เพราะสถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งกรมฯ ต้องมาตรวจสอบดูว่าราคาซื้อขายจริงปัจจุบันมีแตกต่างกันมากหรือไม่" นายจำเริญ กล่าว
กรมธนารักษ์จะทยอยปรับราคารายปี แบ่งเป็นปี 67 จำนวน 11 ล้านแปลง, ปี 68 จำนวน 11 ล้านแปลง และปี 69 จำนวน 11 ล้านแปลง และประกาศเป็นราคาประเมินรอบใหม่ทั้งหมด 33.4 ล้านแปลงในปี 70 ให้มีผลบังคับใช้ในรอบ 4 ปี (70-73) จากราคาประเมินปี 66 ที่ใช้ฐานของปี 62 คาดว่าแนวโน้มราคาประเมินในรอบปี 66-69 ทั่วประเทศจะปรับเพิ่มราว 8% ส่วนราคาประเมินในพื้นที่กรุงเทพปรับเพิ่ม 2.76%
อย่างไรก็ดี ราคาประเมินในปี 66 หากภาคเอกชนเห็นว่าเป็นราคาประเมินที่ต่ำก็เปิดให้ค้านได้ 2 ประเด็น คือ 1.ราคาประเมินไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และ 2.ขั้นตอนวิธีการทำประเมินราคายังไม่ถูกต้อง ซึ่งกฎหมายเปิดว่าถ้าราคาแตกต่างเกิน 15% สามารถทบทวนใหม่ได้ โดยใน 11 ล้านแปลงที่จะปรับราคาประเมินใหม่ มีหลายพื้นที่ที่ราคาปรับไปแล้วเกิน 15%
"ในปี 66 การปรับราคาประเมินเพื่อนำไปใช้ในการอ้างอิง และเป็นฐานในการเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งตอนนี้มีโครงการเชื่อมโยงข้อมูลกันระหว่างกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จากนี้ราคาประเมินเวลาใหม่ เมื่อออกก็จะไปอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน กรมที่ดินเอาไปใช้ได้ นำไปเป็นฐานการจัดเก็บภาษีที่ดินได้ กรมธนารักษ์ต้องเป็นกลางมากที่สุด เวลาอุทธรณ์จะสามารถตอบได้ว่าตัวเลขคิดมาจากฐานข้อมูลอะไร" นายจำเริญ กล่าว
เบื้องต้นแนวโน้มราคาประเมินยังใกล้เคียงกับของเดิม โดยเฉพาะพื้นที่ย่านเศรษฐกิจสำคัญ เช่น สีลม ที่ราคาประเมินล่าสุดตารางวาละล้านบาท ที่ดินตามแนวโครงการลงทุนภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้า ซึ่งกรมฯ จะใช้ฐานราคาประเมินจากการซื้อขายหรือมีการโอนจริงที่ไปจดทะเบียนจากกรมที่ดิน มาจัดทำฐานราคาประเมินตามหลักสากล เช่น ย่านสยามที่ราคาประเมินอยู่ที่ตาราวาละ 7 แสนบาท แต่มีการซื้อขายโอนจริงอยู่ราว 3.5 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลการซื้อขายเปลี่ยนมืออยู่ที่ปีละ 3.4 แสนแปลง จากช่วงก่อนโควิด-19 ที่ 7 แสนแปลง