นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนม.ค.67 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ จากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการ และการลงทุนเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงสภาพอากาศและปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจส่งผลให้เกิดภัยแล้งและจะกระทบต่อภาคเกษตรกรรม
- ภาคตะวันออก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 81.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในภาคบริการ อันเป็นผลจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและเอกชน อาทิ มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) โดยเฉพาะในช่วงฤดูการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมาดำเนินธุรกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พบว่าอยู่ที่ระดับ 83.6 โดยได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ทางบก เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดทั้งในพื้นที่อุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันของจังหวัด
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 74.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคบริการ จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และนโยบายกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐ รวมถึงมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากชาวกัมพูชา ที่เดินทางมาใช้บริการทางการแพทย์และซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และอุปสงค์ในตลาดที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อระบบเศรฐกิจไทย
- ภาคใต้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 73.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ประกอบกับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่สะสมมานานกว่า 2-3 ปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน และนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะใกล้ อาทิ มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์ ที่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุน อันเป็นผลมาจากมาตรการเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุน ให้สิทธิประโยชน์ และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ
- ภาคตะวันตก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 72.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการที่ปรับตัวดีขึ้น อันเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคของภาครัฐ ที่จะช่วยสนับสนุนภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้ปรับตัวดีขึ้น
- ภาคเหนือ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 71.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการ อันเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะขยายการลงทุน เพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนจากการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม จำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วน ยังมีความกังวลต่อปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะแห้งแล้งและกระทบต่อภาคเกษตรกรรม รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก และความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์โลก ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดต่อการส่งออกและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
- ภาคกลาง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 71.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม จากแนวโน้มเศรษฐกิจทีคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคบริการ อันเป็นผลจากนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ มาตรการ Visa Exemption และ Easy E-Receipt อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วน มีความกังวลต่อราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
- กทม. และปริมณฑล
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 69.2 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและการลงทุน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิต