นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง มอบหมายให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) พิจารณาแนวทางออกพันธบัตร (บอนด์) ในรูปเงินตราต่างประเทศ หลังจากไทยไม่ได้ออกมา 20 ปีแล้ว โดยวัตถุประสงค์สำคัญไม่ใช่เพื่อการระดมทุน หรือการกระจายความเสี่ยง แต่เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานในการอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยให้ภาคเอกชนเป็นหลัก
การพิจารณาออกพันธบัตรเงินตราต่างประเทศ วัตถุประสงค์ไม่ใช่เรื่องของการกระจายความเสี่ยง ประโยชน์เป็นเรื่องของการหาต้นทุนที่ถูกกว่า สร้างมาตรฐานในการอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยให้ภาคเอกชน ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศไม่ใช่ทุกประเทศที่สูงกว่าดอกเบี้ยไทย ญี่ปุ่นถูกกว่า ดอลลาร์แพงกว่า หยวนใกล้เคียง ซึ่งฮ่องกงได้แสดงความสนใจในเรื่องนี้ แต่รายละเอียดคงต้องมาพิจารณาความเหมาะสมว่าการดำเนินการดังกล่าวจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยอย่างไร จะมีความคุ้มค่าหรือไม่ และจะทำให้เกิดความง่ายกับกระบวนการมากน้อยเพียงใด คงต้องมาหารือกับในรายละเอียดอีกครั้ง
ส่วนโครงการที่มารองรับการระดมทุน คือ โครงการที่ต้องมีรายได้จากต่างประเทศตามกฎหมายเป็นแบบนั้น ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์ก็เข้าข่าย แต่ก็ไม่ใช่โครงการที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
"ได้มีโอกาสไปประชุมที่ฮ่องกง และทางฮ่องกงได้แสดงความสนใจเกี่ยวกับการออกบอนด์ในรูปเงินตราต่างประเทศของไทย เพราะฮ่องกงเองเป็นตลาดการเงินที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งเขายืนยันว่ามีความพร้อมและเสนอตัวในเรื่องนี้ แต่ในส่วนของไทยเองต้องกลับมาดูความเหมาะสมและประโยชน์ ความคุ้มค่ากับประเทศ ตรงนี้เป็นโจทย์ที่เราจะต้องมาพิจารณาก่อนกลับไปพูดคุยกันอีกครั้ง" นายจุลพันธ์ กล่าว
ขณะที่กระทรวงการคลังมีแผนจะจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงินราว 4 หมื่นล้านบาท ในเดือน มี.ค.67 ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการทดแทนของเดิม และรองรับการบริหารการเงินการคลังของภาครัฐ สร้างการกระจายเครื่องมือระดมทุนของรัฐบาลให้หลากหลาย ครอบคลุมกับนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ และต้องการที่จะกระจายไปให้ถึงประชาชนเพื่อให้เกิดการออมในภาคประชาชน โดยในปีงบประมาณ 2567 นั้น กระทรวงการคลังมีแผนระดมทุนผ่านพันธบัตรออมทรัพย์ ประมาณ 1 แสนล้านบาท