ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวม เดือนม.ค.67 อยู่ที่ 48.0 ลดลงจาก 49.1 ในเดือนธ.ค.66 ตามการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านต้นทุน สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิต ปรับลดลงในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มการค้าที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อลดลงมาก หลังจากเร่งไปในช่วงเทศกาลปลายปี
ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคการผลิต ทรงตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่แย่ลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับลดลงมาก โดยเฉพาะด้านต้นทุน ตามค่าขนส่งที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณทะเลแดง
อย่างไรก็ดี กลุ่มผลิตเหล็กมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นจากด้านคำสั่งซื้อเป็นสำคัญ สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับดีขึ้นในทุกองค์ประกอบ ส่วนหนึ่งจากผลของมาตรการ Easy E-Receipt ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงต้นปี ทั้งนี้ ดัชนีฯ โดยรวมทรงตัวใกล้เคียงกับระดับ 50 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 จากความเชื่อมั่นของทั้งภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต
โดยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม ทรงตัวอยู่ที่ 53.9 จากทั้งภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต โดยความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่มดีขึ้นจากด้านการลงทุนเป็นหลัก และกลุ่มการค้าส่ง มีความเชื่อมั่นดีขึ้นจากด้านคำสั่งซื้อ และผลประกอบการเป็นสำคัญ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม และยาง-พลาสติก ปรับลดลงมากตามราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนกลุ่มผลิตยานยนต์ ความเชื่อมั่นปรับลดลงตามความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ประกอบกับความกังวลรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มโลจิสติกส์และอสังหาริมทรัพย์ ดัชนีฯ ปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยตั้งแต่ต้นปี 2566 แต่ดัชนีฯ ยังอยู่เหนือระดับ 50 ได้อย่างต่อเนื่อง