ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (5-9 ก.พ.) ที่ระดับ 34.80-35.80 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาด 35.22 บาท/ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ 2 ก.พ. 67
โดยในสัปดาห์นี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคและการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงในช่วงก่อนการประชุมเฟด เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นรับสัญญาณจากประธานเฟดที่สะท้อนว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนมี.ค. ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกแข็งค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 4.00%) ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะการปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่อาจมีโอกาสความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรอบการประชุมหลังจากเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังมีปัจจัยลบจากข้อมูล ISM ภาคการผลิตในเดือนม.ค. ซึ่งสะท้อนการหดตัวต่อเนื่องของภาคการผลิตสหรัฐฯ แม้ค่าดัชนีฯ จะดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดก็ตาม
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-2 ก.พ. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,980 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 7,410 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 7,400 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 10 ล้านบาท)
ในสัปดาห์หน้า ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของไทย (5 ก.พ.) ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) (7 ก.พ.) และกระแสเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคบริการเดือนม.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย สถานการณ์เงินเฟ้อของจีนที่สะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน