มอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐได้เริ่มปรับลดจำนวนพนักงานในสหรัฐ 1,500 ตำแหน่ง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายท่ามกลางภาวะความผันผวนในตลาดสินเชื่อที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าววงในว่า การปรับลดพนักงานครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดในตลาดการเงินของสหรัฐ หลังจากที่วาณิชธนกิจหลายแห่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติสินเชื่อทั่วโลกที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่ผ่านมา โดยยอดขาดทุนจากการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันและการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอื่นๆทำให้ธนาคารทั่วโลกต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงไปกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
มอร์แกน สแตนลีย์มีแผนที่จะปรับลดพนักงาน 1,500 ตำแหน่งซึ่งคิดเป็น 5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ซึ่งการปรับลดพนักงานครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในแผนกการจัดการสินทรัพย์และกลุ่มธุรกิจองค์กรของบริษัท แต่จะไม่รวมถึงพนักงานในบริษัทโบรกเกอร์รายย่อย
มาร์ก เลก โฆษกของมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า เรากำลังประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเรากำลังปรับลดจำนวนพนักงานได้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ วาณิชธนกิจมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 47,000 คน ยังคงเดินหน้าจ้างบุคลากรเพื่อเข้าทำงานในแผนกสำคัญๆในตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง
จอห์น แมค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของมอร์แกน สแตนลีย์ได้สั่งปลดตำแหน่งงานในครั้งนี้ หลังจากที่บริษัทรายงานผลประกอบการขาดทุนไตรมาสสี่ที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันก็ได้รับเงินลงทุนจากกองทุนเพื่อความมั่งคั่งของจีนเป็นเงิน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ จอห์น แมค กล่าวกับนักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทว่า บริษัทจะลดค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากความผันผวนในตลาดเงิน อย่างไรก็ตาม เขายังมีมุมมองในด้านบวกต่อการขยายตัวในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--