น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาราคาสินค้าภาคการประมงตกต่ำ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา และรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าภาคการประมง รวมถึงมาตรการการเก็บค่าธรรมเนียมการนำเข้าสินค้าเพื่อการประมง และที่สำคัญคือ การเพิ่มความเข้มข้นการตรวจสอบสินค้าภาคการประมงที่นำเข้าสู่ประเทศไทยทุกประเภทจากหลักมาตรการสากลเดิมที่มีอยู่ ในการตรวจสอบต้นทางของสินค้า ตลอดจนปลายทาง ที่ผู้นำเข้าจะนำไปจำหน่าย
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมประมงได้ตรวจสอบสินค้าภาคการประมง และสินค้าภาคปศุสัตว์ ที่มีการลักลอบเข้ามาสู่ราชอาณาจักรอย่างเข้มข้น โดยภายในเดือน ก.พ.นี้ จะทราบว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อภาคการประมงและภาคปศุสัตว์ โดย ร.อ.ธรรมนัส ตระหนักถึงความเดือดร้อนของชาวประมง ซึ่งกระทรวงเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังเร่งหาข้อสรุปและมาตรการเพื่อไม่ให้สินค้าภาคการประมงตกต่ำอย่างในปัจจุบันนี้ โดยทุกเรื่องจะจบในวันที่ 12 ก.พ. นี้ จากการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาประมงที่มี ร.อ.ธรรมนัส เป็นประธาน
น.ส.เกณิกา ยังกล่าวว่า ทางหอการค้าไทยได้สะท้อนภาพรวมสินค้าประมงจากสมาคมต่างๆสามารถ ส่งออกปีละ 4 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ควบคุมกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางหอการค้าจะรับซื้อสินค้าภาคการประมงในราคาที่เหมาะสมให้ชาวประมงอยู่ได้ โดยคาดการณ์ในปี 2567 ราคาสินค้าประมงจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ราว 5% ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่า