นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการให้ข้อมูลราคาขายปลีกสินค้าอุปโภค-บริโภค และราคาวัสดุก่อสร้าง ระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับ 15 ผู้ประกอบรายสำคัญของประเทศ เพื่อช่วยพัฒนาการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจการค้า ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมามากกว่า 80 ปี
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักในการร่วมมือครั้งนี้ เพื่อพัฒนาการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจการค้า ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จากเดิมที่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลจำนวนมากตามห้างร้านต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลโดยตรงจากผู้ประกอบการ โดยใช้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และความอนุเคราะห์จากผู้ประกอบการ ทำให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว และลดกระบวนการทำงาน แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานในการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจการค้าระดับสากล
"ถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการยกระดับการทำงานอย่างสร้างสรรค์ และสอดคล้องกับนโยบายที่ได้ให้ไว้ คือ เร่งทำงานเชิงรุก ให้มีความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ลดข้อจำกัดในการทำงาน และการบูรณาการทำงานร่วมกัน ระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน" นายนภินทร กล่าว
พร้อมระบุว่า การยกระดับการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจการค้าในครั้งนี้ จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก เพราะ 2 ดัชนี ที่จะได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการนั้น ถือเป็นตัวชี้วัดที่มีความสำคัญอย่างมาก ต่อการทำงานของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งจะนำไปคำนวณอัตราเงินเฟ้อ เป็นหัวใจหลักในการวัดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และเชื่อมั่นว่าการพัฒนาเครื่องชี้วัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ สามารถดูแลค่าครองชีพอย่างถูกจุด รวดเร็ว และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในที่สุด
โดยกระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกำหนดกรอบเป้าหมายการดำเนินนโยบายการเงินในแต่ละปี และนำมาใช้ในการกำหนดการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ส่วนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะนำข้อมูลไปประกอบการจัดทำ GDP และกระทรวงแรงงาน นำไปประกอบการจัดทำอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้าง ถูกใช้เป็นราคาอ้างอิงสำหรับการจัดทำราคากลางการก่อสร้างภาครัฐ
สำหรับผู้ประกอบการ 15 รายสำคัญของประเทศ ที่เข้าร่วมใน MOU ครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. สมาคมผู้ค้าปลีกไทย 2.บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) 3.บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) 4. บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด 5. บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด 6. บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด 7. บมจ. ดูโฮม (DOHOME) 8. บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด 9. บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 10. บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาเก็ต จำกัด 11. บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด 12. บมจ. อิออน (ไทยแลนด์) 13. บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด 14. บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด และ 15. บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO)