ผู้ค้าน้ำมันประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกผลิตภัณฑ์อีกลิตรละ 50 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 8 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันเบนซินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 37.09 บาท, เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 35.99 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 33.09 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 32.29 บาท
ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของเชลล์ฯ อยู่ที่ลิตรละ 34.44 บาท ขณะที่ ปตท.และบางจากฯ แม้จะปรับขึ้นมาแล้วแต่ยังต่ำกว่าเชลล์อยู่ลิตรละ 50 สตางค์ โดยมีราคาอยู่ที่ลิตรละ 33.94 บาท
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบและสำเร็จรูปในตลาดโลกในช่วงปลายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงมากกว่า 5-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ก่อนหน้านี้จะอยู่ในระดับสูงมาตลอด
ทั้งนี้เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงและมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีกทำให้มีการเข้าซื้อเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าต่อเนื่อง และไนจีเรียผู้ส่งออกน้ำมันเป็นอันดับ 8 ของโลกถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายวางระเบิดสถานีสูบถ่ายน้ำมันทำให้ต้องหยุดการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 164,000 บาร์เรล/วัน
อีกทั้งผู้นำอิหร่านยังคงยืนยันที่จะพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ต่อไป และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม สิงคโปร์ อินเดีย และเกาหลี ยังคงมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 113.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถือเป็นระดับสูงสุด(New High) อีกครั้ง ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินและดีเซลอยู่ที่ระดับ 123.69 และ 144.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ขาดทุนเฉลี่ยอยู่ลิตรละ 1.50 บาท หรือวันละประมาณ 40 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ปตท.ขาดทุนไปแล้วกว่า 3,200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากน้ำมันดีเซลถึง 3,165 ล้านบาท และน้ำมันเบนซิน 52 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--