มอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐเปิดเผยว่า เงินวอนของเกาหลีใต้อาจอ่อนค่าลงไปอีก 8.8% ในปีนี้ เนื่องจากเกาหลีใต้กำลังเผชิญภาวะตื่นตระหนกทางการเงินจากการที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินมากเกินไป
สจ็วต นิวแฮม นักวิเคราะห์ค่าเงินในฮ่องกงกล่าวในการให้สัมภาษณ์ในวันนี้ว่า ภาวะขาดทุนในตลาดสินเชื่อจะสร้างปัญหาให้กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในประเทศซึ่งมีเม็ดเงินระดมทุนจากยอดการปล่อยเงินกู้มากกว่าเงินฝาก 1.33 เท่า ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจะกระตุ้นให้เกิดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารแต่จะทำให้ลูกค้าต้องแบกรับภาระในการผ่อนชำระมากขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในปีนี้เงินวอนอาจอยู่ในภาวะย่ำแย่ที่สุดในบรรดาสกุลเงินที่มีการซื้อขาย 16 สกุล เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ขณะที่มีสัญญาณหลายประการบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยจะเห็นได้จากยอดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมี.ค.ของเกาหลีใต้ที่ขาดดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะการส่งออกที่ชะลอตัวลงได้บั่นทอนความสนใจของนักลงทุน
"กระแสความหวั่นวิตกต่อสถานการณ์ตลาดเงินของเกาหลีใต้อาจเลวร้ายมากขึ้น และไม่ว่าธนาคารกลางจะมีนโยบายทางการเงินออกมาในทิศทางใดก็ล้วนแต่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อเงินวอนทั้งสิ้น" นิวแฮมกล่าว "เราเห็นว่าเงินวอนอาจเผชิญกับปัจจัยใหม่ๆที่ทำให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพจนลามไปถึงขั้นวิกฤติ"
นโยบายผ่อนคลายความเข้มงวดทางการเงินของธนาคารกลางจะช่วยกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยเงินกู้และเพิ่มเม็ดเงินในระบบการธนาคารมากขึ้น ขณะที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจบั่นทอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการดำเนินงานของธนาคารภายใต้นโยบายคุมเข้มจะประสบภาวะล่มสลายในท้ายที่สุด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--