ราคายางที่ซื้อขายผ่านสำนักงานตลาดกลางยางพารา ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) วานนี้ (7 มี.ค.) ทะลุ 80 บาท แล้ว โดยราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 81.09 บาท/กก. ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบ 41 เดือน อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคายังคงอยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. เปิดเผยว่า ปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลให้ราคายางราคายางพุ่งสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการใช้ยางในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของโลกที่เพิ่มมากขึ้น ยอดขายรถยนต์ของยุโรปในเดือนม.ค. โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.3%
ในขณะที่จีนผลิตรถยนต์และส่งออกในปี 66 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.91 ล้านคัน คิดเป็น 57.9% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ ส่งผลให้ยังสามารถตรึงราคาน้ำมันไว้ในระดับที่สูง ต้นทุนการผลิตยางสังเคราะห์จึงสูงขึ้น ช่วยเพิ่มความต้องการใช้ยางธรรมชาติในภาคการผลิตให้มากขึ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีราคายางพาราในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลา 41 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาส่งออก ทะลุ 80 บาทต่อกิโลกรัมว่า เชื่อว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลจะพยามดำเนินมาตรการให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นต่อไป เพราะมีเกษตรกรผู้ปลูกยางอยู่ทั้งในภาคใต้ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายกฯ ได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองทัพบก กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร ตำรวจที่ช่วยกันสกัดกั้น ดูแลยางพาราไม่ให้ข้ามแดนเข้ามา
"ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากที่ราคายางปรับตัวสูงขึ้น ส่วนสำคัญเกิดจากหลายภาคส่วนที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนเป็นหูเป็นตา รวมไปถึงสส.ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม ก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะในการเข้มงวดตรวจสอบนำเข้ายางเถื่อน"