โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายงานผลกำไรประจำปีงบประมาณที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.2551 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากยอดขายในต่างประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งยอดขายดังกล่าวได้ช่วยชดเชยผลกระทบที่เลวร้ายจากค่าใช้จ่ายต้นทุนพื้นฐานที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางภาวะอุปสงค์ที่ชะลอตัวในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดว่า โตโยต้าซึ่งมีแนวโน้มจะก้าวขึ้นแซงหน้าเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป ในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ จะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางราคาวัตถุดิบพื้นที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกดดันให้ผลกำไรของบริษัทประจำปีงบประมาณ 2552 ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี
โตโยต้าได้รายงานผลกำไรในรอบปีที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.2551 อยู่ที่ระดับ 2.27 ล้านล้านเยน (2.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งปรับตัวสูงขึ้น 2.24 ล้านล้านเยนจากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ 3 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่า ผลกำไรของบริษัทโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 2.34 ล้านล้านเยน
ทั้งนี้ ผลกำไรสุทธิของโตโยต้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.5% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.72 ล้านล้านเยน เนื่องจากบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 9.8% แตะที่ 26.29 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดขายของโตโยต้าในตลาดทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.91 ล้านคัน จากระดับ 8.52 ล้านคัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--