ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.08 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลออกจากต่างชาติขายพันธบัตร

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 19, 2024 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.98 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90 - 36.09 บาท/ ดอลลาร์ และวันนี้ต่างชาติขายพันธบัตรราว 4 พันล้านบาท

"บาทอ่อนค่าตามภูมิภาค เนื่องจากมีแรงกระเพื่อมหลังธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยยังไม่มีความ ชัดเจนว่าจะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป ส่งผลให้มีแรงเทขายเยนทำกำไร และได้รับปัจจัยกดดันจาก Flow ไหลออกจากตลาด พันธบัตร" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.95-36.15 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผล ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ช่วงกลางดึกวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ปีนี้จะกำหนดให้มีการปรับลดดอกเบี้ย กี่ครั้ง หากปีนี้ปรับลด 3 ครั้งตามแผนเดิมจะส่งผลให้บาทแข็งค่า และถ้าปรับเหลือ 2 ครั้งจะส่งผลให้บาทอ่อนค่า

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 150.52 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 149.17 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0843 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0871 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,382.46 จุด ลดลง 3.48 จุด, -0.25% มูลค่าซื้อขาย 54,059.85 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 18,789.51 ล้านบาท
  • นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 ลงเหลือ 2.6%
จากเดิม 3.2% เนื่องจากปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาด, การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน มี
แนวโน้มชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนทำได้ต่ำกว่าคาด
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้หากไทยปรับลดดอกเบี้ยนโยบายก่อนธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) อาจมีเงินทุนไหลออก ดังนั้นจึงคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจจะลดดอกเบี้ยหลังเฟด หรือเป็นช่วงกลางปีนี้
โดยคาดว่า กนง.จะลดดอกเบี้ยนโยบาย 1-2 ครั้งในปีนี้ รวมแล้วลดประมาณ 0.25-0.50%
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-17 มี.ค.67 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งสิ้น
8,074,651 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 390,906 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับ
แรก ได้แก่ จีน 1,493,052 คน มาเลเซีย 1,046,725 คน รัสเซีย 538,709 คน เกาหลีใต้ 501,468 คน และอินเดีย 399,683
คน
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 17 ปีหรือนับตั้งแต่
ปี 2550 พร้อมกับประกาศยกเลิกนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) ซึ่งถือเป็นการยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบที่ดำเนิน
การมาเป็นเวลานานและเป็นประเทศสุดท้ายของโลก หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าค่าจ้างของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในปีนี้
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กำลังปล่อยกู้เป็นจำนวนเงินใกล้เคียงระดับสูงเป็นประวัติการณ์ให้กับประเทศ
ต่าง ๆ เกือบ 100 ประเทศ ซึ่งแสดงถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ IMF ในการช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการรับมือกับปัญหาด้านการเงินและ
การเมืองโลก หลังยุคโควิด-19 ระบาด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ