ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ไทยปรับตัวดีขึ้นสูงกว่าช่วงเวลาก่อนการแพร่ระบาดของโควิด โดยมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มขึ้นเป็น 1.9% ณ สิ้นปี 2566 จาก 1.6% ณ สิ้นปี 2562
ฟิทช์ เรทติ้งส์ มองว่าการปรับตัวที่ดีขึ้นดังกล่าวน่าจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในปี 2567 โดยอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิน่าจะปรับตัวขึ้นมาเป็น 3.3% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของฟิทช์ต่อระบบธนาคารในประเทศไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น (Improving Sector Outlook) อีกทั้งยังจะเป็นการช่วยเสริมฐานะเงินกองทุนให้กับธนาคารและช่วยรองรับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของภาคธนาคารพาณิชย์ไทย ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.3% ณ สิ้นปี 2566 จาก 3.4% ณ สิ้นปี 2565 แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2567-2568
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่สำคัญ ยังคงมาจากสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) และสินเชื่อที่ได้รับการปรับโครงสร้างเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10% ของสินเชื่อรวม รวมทั้งสัญญาณของปัญหาในการชำระหนี้ในลูกหนี้สินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่บางราย แต่อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับที่น่าจะพอเพียงในการช่วยรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้