นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ถึงแม้จะทำงาน 6-7 เดือนแล้วก็ตาม แต่ยังไม่พอใจการทำงานของตัวเอง และการทำงานของรัฐมนตรีทุกท่าน เพราะทุกอย่างทำให้ดีขึ้นได้อีก ความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่ ในทุกเรื่องตัวเราเองต้องพยายามทำต่อ ถึงได้ลงมาในพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน จะได้นำไปปรับวิธีการทำงาน
อย่างไรก็ตาม ยังคงติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ตลอด หลังกระทรวงการคลังชี้ว่าตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.นี้ เศรษฐกิจไทยจะเริ่มคึกคัก เนื่องจากมีเม็ดเงินจากงบประมาณรายจ่ายปี 2567 เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยมั่นใจหลังงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ผ่านการพิจารณาที่ประชุมสภาฯ การทำงานจะเปรี้ยงขึ้นกว่านี้
นายกฯ ระบุว่า งบประมาณปี 2567 เพิ่งผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้ระยะเวลาอีก 1 เดือนกว่าจะใช้งบประมาณได้
ส่วนผลสำรวจความนิยมล่าสุดที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นอันดับหนึ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี และนายเศรษฐา อยู่ในลำดับที่ 3 นายกฯ ระบุว่า ต้องรับฟังเพราะเป็นการสะท้อนความคิดของประชาชน
สำหรับเรื่องค่าแรง ที่จะมีการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแนะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ นำร่องใน 10 จังหวัด ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ค่าแรงก็เป็นอีกหนึ่งในปัญหา ที่เราเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้
ส่วนกรณีที่นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะแถลงความคืบหน้าเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในช่วงบ่ายวันนี้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะเป็นการแถลงเรื่องไทม์ไลน์
สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก สำหรับประเทศไทยมีการเตรียมการรับมือด้านเศรษฐกิจไว้อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์นี้ ส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของคู่กรณี ทั้งด้านสินค้าและการค้าระหว่างประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ คนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต้องปลอดภัย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่
"ก็ต้องดูให้ดี ที่สำคัญที่สุด คือคนไทยที่อยู่บริเวณนั้น ต้องปลอดภัย ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานอะไร และยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศดูแลอย่างเต็มที่" นายกรัฐมนตรี ระบุ